ปัจจุบัน บริษัทที่มีมูลค่าตลาดเกิน 3 ล้านล้านดอลลาร์ ได้แก่ Nvidia, Apple และ Microsoft; บริษัทที่มีมูลค่ามากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ ได้แก่ Amazon และ Alphabet (Google); และในกลุ่มที่มีมูลค่า 1-2 ล้านล้านดอลลาร์ ได้แก่ Saudi Aramco, Meta, TSMC และ Tesla โดย Berkshire Hathaway เคยอยู่ในกลุ่มนี้เมื่อต้นปี การลงทุนที่สำคัญ" นี้อย่างถูกต้อง' style='' class='right-float-img'>

ราคาหุ้นเทสลาขึ้นสูงสุดในรอบ 2 ปี

เมื่อวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน ในช่วงเปิดตลาดหุ้นสหรัฐ หุ้นเทสลาพุ่งขึ้นมากกว่า 9.5% สูงสุดที่ 325 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2022 มูลค่าตลาดของเทสลายืนอยู่เหนือระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์อย่างมั่นคง

แม้ว่า Tesla จะประสบความสำเร็จในการเพิ่มมูลค่าหุ้น แต่ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐยังคงมีความไม่แน่นอน คู่แข่งอย่าง Rivian ราคาหุ้นลดลง 56% ตั้งแต่ต้นปี และ Lucid ลดลง 48% ในช่วงเวลาเดียวกัน

บทบาทของมัสก์ในการขับเคลื่อนหุ้นเทสลา

สื่อต่างประเทศวิเคราะห์ว่าความสำเร็จของเทสลานั้นส่วนหนึ่งมาจากการที่ซีอีโอ Elon Musk สนับสนุนการเลือกตั้งของ Donald Trump อย่างแข็งขัน โดยมัสก์ไม่เพียงแค่บริจาคเงินให้กับแคมเปญของทรัมป์และพรรครีพับลิกันมากกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ แต่ยังใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของเขาอย่าง X ในการโปรโมตและโจมตีฝ่ายเดโมแครต

ในระหว่างการเลือกตั้ง ทรัมป์กล่าวถึงการแต่งตั้งมัสก์ให้เป็นหัวหน้าคณะกรรมการ "รัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ" โดยมัสก์ได้ให้คำมั่นว่าจะช่วยลดงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐลงถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์

ผลกระทบต่อนโยบายยานยนต์ไฟฟ้า

นักวิเคราะห์ Daniel Ives จาก Wedbush Securities ระบุว่า หากทรัมป์ลดการสนับสนุนทางภาษีสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า Tesla อาจได้รับประโยชน์เนื่องจากสามารถแข่งขันได้ดีกว่าผู้ผลิตรายอื่นในตลาด

นอกจากนี้ การร่วมมือของมัสก์กับทรัมป์อาจช่วยเสริมสร้างการเล่าเรื่องเกี่ยวกับ AI และการขับขี่อัตโนมัติของ Tesla ซึ่ง Ives คาดการณ์ว่าหุ้น Tesla อาจเพิ่มขึ้นอีก 40-50 ดอลลาร์ในช่วงการดำรงตำแหน่งครั้งที่สองของทรัมป์