การเปิดเผยของตลาด

หลายคนเคยได้ยินว่าตลาดสามารถเปิดเผยด้านที่ดิบที่สุดของมนุษย์ ในทุกวันเมื่อการซื้อขายสิ้นสุดลง คุณจะพบว่าการต่อสู้กับตัวตนภายในไม่ใช่ความสนใจหรือความหลงใหล แต่เป็นการดำรงชีวิตที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณได้ก้าวข้ามการคิดเชิงตรรกะปกติและกำลังถูกอารมณ์ที่ไม่คุ้นเคยควบคุมอยู่? นี่เป็นคำถามที่เป็นเรื่องส่วนตัว คำตอบของผู้ค้าอาจแตกต่างกันมาก โดยทั่วไปแล้ว ผู้ค้ามักจะตกอยู่ในอารมณ์ที่ผิดปกติหรือการรับรู้ถึงตลาดที่ไม่เหมือนปกติ เมื่อไหร่ที่คุณมีหลักฐานในการตัดสินใจว่าคุณถูกความโลภควบคุม?

ความโลภและการค้า

FOREXPRESS หวังว่าบทความวันนี้จะช่วยให้ทุกคนได้สะท้อนอารมณ์ในระหว่างการซื้อขาย ความโลภถูกอธิบายไว้ในวิกิพีเดียว่าเป็น: การมีเจตนาอย่างรุนแรงในการถือครองความมั่งคั่งและคุณค่าอื่น ๆ ซึ่งอยู่เหนือความต้องการพื้นฐานในการดำรงชีวิตและความสะดวกสบาย มันหมายถึงความปรารถนาอย่างสูงต่อความมั่งคั่ง สถานะ และอำนาจ เป้าหมายของผู้ค้าก็คือการแสวงหาความมั่งคั่ง หลายคนทำการค้าไม่ใช่เพียงเพื่อการดำรงชีวิต แต่ยังมีความปรารถนาที่จะเอาชนะความกลัวภายในและพิชิตตลาด

อิทธิพลด้านลบของความโลภ

เราทุกคนรู้จักประโยคคลาสสิกที่กอร์ดอน เก็กโก (Gordon Gekko) พูดในภาพยนตร์ว่า “ความโลภคือสิ่งดี” ฟังดูเหมือนสคริปต์ภาพยนตร์คลาสสิกจากฮอลลีวูด แต่ในความเป็นจริง ความโลภจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อบัญชีการซื้อขายของคุณ ความโลภและอารมณ์อื่น ๆ ของมนุษย์ทุกอย่างไม่ควรมีอยู่ในการซื้อขาย การใช้เลเวอเรจเพื่อให้ได้รับผลกำไรทำให้ความโลภลุกลามมากขึ้น หากคุณใช้เพียงเงินทุนของคุณเองในการซื้อขาย คุณสามารถคาดหวังได้เพียงความผันผวนที่รุนแรงในตลาดเพื่อจะทำกำไร

ความเสี่ยงจากการใช้เลเวอเรจ

แต่ในกรณีนี้ คุณต้องมีโชคมากพอที่ให้ความผันผวนของตลาดเป็นประโยชน์ต่อตัวคุณอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้ ระยะห่างระหว่างสภาวะตลาดที่แท้จริงกับความคาดหวังที่แท้จริงของกำไรก็เกิดขึ้นแล้ว เมื่อมีการใช้เลเวอเรจ ระยะห่างนี้จะหายไป ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการทำกำไร 20% จากการลงทุนด้วยเงินทุนของคุณ ตลาดจำเป็นต้องมีความผันผวน 20% ถึงจะบรรลุเป้าหมาย แต่ถ้ามีเลเวอเรจ ความผันผวนของตลาดอาจต้องการเพียง 10% คุณก็จะสามารถบรรลุเป้าหมายได้

ความโลภในการซื้อขาย

เช่นเดียวกับผู้ค้าใหม่หลายคน เมื่อพวกเขาเรียนรู้เกี่ยวกับมาร์จิ้นและเลเวอเรจ คำถามถัดไปที่พวกเขาคิดคือ: ฉันจะทำกำไรได้มากขึ้นได้อย่างไร? โดยไม่พูดถึงปัญหาในตลาด แต่ฉันเชื่อว่าเมื่อขาดประสบการณ์ ถ้าใช้เลเวอเรจสูงเกินไปและมีความคาดหวังที่ไม่สมจริง ผู้ค้าจะได้รับผลกำไรได้ยาก ถ้าหากคุณดูการซื้อขายของคุณในปีที่ผ่านมา คุณจะเห็นว่าเมื่อใดที่คุณโลภเกินไป? ความโลภนี้มักเกิดขึ้นในสองช่วงเวลา:

สถานการณ์ที่บ่งบอกถึงความโลภ

• คุณพบว่าคุณลืมหลักการการซื้อขายของคุณไปแล้ว
• ก่อนเปิดตลาด คุณวิเคราะห์และคิดว่าทุกเครื่องมือการค้าดูเหมือนจะทำกำไรได้
• หลังจากเปิดตำแหน่งไม่นาน เป้าหมายราคาของคุณถูกปรับสูงขึ้น แต่คุณไม่ได้มีเหตุผลเพียงพอในการตั้งเป้าหมายแบบนั้น
• ตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงเวลาที่คุณปิดตำแหน่ง คุณรู้สึกถึงความกดดันจากการซื้อขายตลอดเวลา
• คุณไม่ตรวจสอบการซื้อขายที่จบไปแล้ว
• คุณหยุดตั้งคำสั่งลิมิตและมีการซื้อขายมากขึ้น
• ซื้อขายมากเกินไป
• สัดส่วนของมาร์จิ้นที่ลงทุนในการซื้อขายแต่ละครั้งเพิ่มขึ้น
• คุณไม่เคยถอนเงินจากตลาด
• คุณยอมรับว่าคุณไม่ปฏิบัติตามหลักการการซื้อลงทุนและการบริหารจัดการเงิน

ผลลัพธ์ของความโลภ

เมื่อคุณยังคิดว่าอีกครั้ง คุณจะเริ่มปฏิบัติตามหลักการการซื้อขายหลัก โดยรอจนกว่าจะชนะเงินที่สูญเสียไปหรือถึงเป้าหมายบางอย่าง แต่ปัญหาคือแม้ว่าคุณจะบรรลุเป้าหมาย คุณก็ยังจะหาทางต่อไปในการซื้อขายแบบเดิม ค่อยๆ คุณจะห่างจากหลักการมากขึ้น