ความไม่แน่นอนของผลลัพธ์ในการเทรด

ความไม่แน่นอนของผลการเทรดเกิดจากความไม่สามารถของเราในการตัดสินใจได้อย่างแม่นยำว่าเมื่อไรควรเปิดหรือปิดตำแหน่ง เรามีความต้องการที่จะควบคุมซึ่งเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของมนุษย์ ที่ต้องการให้เหตุการณ์ต่างๆพัฒนาไปในทิศทางที่เราควบคุมได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อความต้องการควบคุมนี้เข้าสู่สภาพแวดล้อมตลาดที่ไม่แน่นอนอย่างสูง มันอาจทำให้เกิดผลตรงกันข้าม ในทางจิตวิทยามันเรียกว่าความไม่ลงรอยกันทางปัญญา (cognitive dissonance) ซึ่งหมายถึงความต้องการควบคุมและสภาวะการเทรดที่ถูกต้องนั้นขัดแย้งกัน มันจะส่งผลเชิงลบต่อจิตใจในการเทรดของเรา ในสภาวะแวดล้อมที่มีความผันผวนสูง เราไม่สามารถคาดการณ์ทิศทางราคาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ สภาวะจิตใจของเราบ่อยครั้งเหมือนรถไฟเหาะ สนุกสนานบ้างเศร้าบ้าง ความต้องการควบคุมในตัวเราบังคับให้เรื่องราวอยู่ในวงของการควบคุมของเรา แต่มันกลับทำให้เรารู้สึกว่าตนเองไร้ความสามารถในตลาดที่มีความผันผวนสูง

การตัดสินใจในการเดิมพัน

เมื่อเราไม่สามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำว่าเมื่อไรควรเปิดหรือปิดตำแหน่ง เราจะต้องใช้กฎความน่าจะเป็นในการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจใด ๆ ก็ไม่มีความถูกต้อง 100% เราสามารถคาดการณ์ทิศทางของราคาได้จากประสบการณ์และข้อมูลที่มีอยู่เท่านั้น นี่คือสาเหตุที่ทำให้เราประสบกับอารมณ์ขาขึ้นขาลงอยู่ตลอดในขณะทำการเทรด บางครั้งหลังจากเปิดออเดอร์แล้ว เรามักจะไม่รู้ว่าควรจะปิดเมื่อไร และเมื่อเราพร้อมจะปิด ก็จะมีเสียงหนึ่งดังขึ้นในหัวว่า “ปิดตอนนี้อาจจะเร็วไปนะ? รออีกหน่อยจะได้กำไรมากกว่านี้? ... แต่ถ้าตลาดกลับทิศล่ะ? ถ้าเปลี่ยนจากกำไรเป็นขาดทุนล่ะ นั่นจะทำให้เราขาดทุนมหาศาลหรือไม่?... แล้วเราจะทำยังไง?” ความลังเล สงสัย และความวิตกกังวลเหล่านี้เป็นความรู้สึกที่เทรดเดอร์ทุกคนต้องเผชิญ และในช่วงเวลาที่ปิดออเดอร์ทุกคนมักจะมีสภาวจิตใจคล้ายๆ กัน

จิตวิทยาการเทรด

Mark Douglas กล่าวไว้ในหนังสือ “Trading in The Zone” ว่า “เมื่อคุณเรียนรู้ที่จะยอมรับความไม่แน่นอนของตลาดอย่างสงบผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือการจมอยู่ในความสงสัย” การลงทุนแต่ละครั้งเป็นสิ่งที่แยกต่างหาก และแต่ละออเดอร์ก็มาจากกันและไม่มีความเกี่ยวข้องกัน นี่คือสิ่งที่อธิบายถึงจิตใจของเราขณะปิดออเดอร์ นอกจากนี้ยังอธิบายว่าทำไมเราถึงรู้สึกสับสนมากมายเมื่อถึงเวลาปิดออเดอร์ คนส่วนใหญ่จะเชื่อมโยงความเป็นไปได้ของผลลัพธ์ทั้งกำไรและขาดทุนจากออเดอร์ก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นออเดอร์ที่ก่อนหน้านี้ทำกำไรได้ 1000 ดอลลาร์ ดังนั้นออเดอร์นี้ก็ต้องมีกำไรอย่างน้อย 1000 ดอลลาร์เช่นกัน

การจัดการออเดอร์

การมีความคาดหวังนี้เกิดจากความต้องการควบคุม เราต้องการให้เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ในขอบเขตที่เราคาดการณ์หรือควบคุมได้ เราจึงสร้างความรู้สึกแน่นอนและปฏิเสธความไม่แน่นอน ส่งผลให้เราสามารถเชื่อมโยงประสบการณ์ในอดีตเข้ากับสภาพแวดล้อมปัจจุบันได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากแต่ละการเทรดเป็นอิสระ ผลลัพธ์ของการขาดทุนหรือกำไรแต่ละออเดอร์ขึ้นอยู่กับความบังเอิญ ดังนั้นทำไมบางคนถึงยังสามารถทำกำไรอย่างต่อเนื่องได้? คำตอบคือ คุณต้องมีความเข้าใจสองแนวคิดในการเทรด ซึ่งสองแนวคิดนี้มีความขัดแย้งกัน

การยอมรับความไม่แน่นอน

แนวคิดแรกคือ ถ้าคุณยึดมั่นในการทำตามแผนการและกลยุทธ์การเทรดอย่างต่อเนื่อง คุณจะสามารถทำกำไรอย่างเสถียร หนึ่งในแนวคิดคือ คุณไม่สามารถควบคุมตลาดได้ ผลลัพธ์ของแต่ละออเดอร์มีความสุ่มอิสระต่อกัน ตราบใดที่คุณยังยึดมั่นดำเนินการตามแผนการและกลยุทธ์การเทรด คุณจะสามารถสร้างผลกำไรเชิงบวกในระยะยาว แม้ว่าจะมีกำไรเพียง 5% แต่ถ้าคุณมีออเดอร์เป็นจำนวนมาก ก็สามารถสร้างกำไรที่สำคัญได้

อุปสรรคแห่งความคาดหวัง

เรามาเจาะลึกถึงจิตใจของเทรดเดอร์เมื่อถึงเวลาปิดออเดอร์กัน เมื่อเราเปิดออเดอร์ใหม่ ความคาดหวังจะเกิดขึ้น นี่คือปัญหาครั้งใหญ่ในเรื่องการเทรด เทรดเดอร์มักจะไม่คิดว่าผลลัพธ์ของการขาดทุนหรือกำไรทุกออเดอร์จะแยกออกจากกัน พวกเขาจะตั้งความคาดหวังไว้ในจิตใจเกี่ยวกับการขาดทุนหรือกำไรในอนาคต ความคาดหวังเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับออเดอร์ก่อนหน้า ซึ่งเอาเข้าสู่ความสับสนว่าออเดอร์ในปัจจุบันเชื่อมโยงอย่างไรกับผลลัพธ์ในอดีต

การจัดการความเสี่ยง

หากคุณไม่เห็นค่าของความเป็นอิสระของทุกออเดอร์ คุณจะไม่สามารถขจัดความคาดหวังในจิตใจและยอมรับผลลัพธ์ต่างๆ อย่างนุ่มนวล ไม่ว่าจะเป็นการขาดทุนหรือกำไร ความไร้ความคาดหวังทำให้ไม่มีความรู้สึกผิดหวัง หากขาดทุนก็ไม่ต้องร้องไห้ หากทำกำไรก็อย่าหัวเราะ นี่คือการแสดงถึงจิตใจที่ดี คุณสามารถประมาณการได้แค่ขนาดออเดอร์จะมีผลกระทบต่อกำไรและขาดทุนของคุณ อย่างไรก็ตามการควบคุมขนาดออเดอร์เป็นกุญแจในด้านการบริหารความเสี่ยง

การจัดการผิดพลาด

แล้วจะรับมือกับผลข้างเคียงทางจิตใจเหล่านี้อย่างไร? คุณอาจอ่านบทความที่ฉันเคยเขียนไว้เรื่อง “เทรดเดอร์มืออาชีพวางแผนการเทรดอย่างไร?” ขณะที่คุณได้ตั้งค่าออเดอร์แล้ว อย่ากังวลเกี่ยวกับมันอีกแล้ว เพียงแค่ตั้งเป้าหมายกำไรและจุดตัดขาดทุน หลีกเลี่ยงการพยายามคาดการณ์ตลาดและเน้นไปที่การควบคุมจิตใจและการบริหารความเสี่ยง

สรุป

ท้ายที่สุดแล้ว สถานการณ์ก็ยอมรับความจริง ตลาดไม่มีการคาดการณ์และคุณต้องมีแผน เผื่อคุณไม่อาจจะไม่รู้ว่าออเดอร์จะเดินสู่ทิศทางไหน ฉะนั้นควรมีแผนการบริหารความเสี่ยงและมีความมั่นใจในกระบวนการ การพึ่งความคาดหวังเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของตลาดอาจจะทำให้คุณรู้สึกกังวลมากขึ้น และทำให้คุณไม่ได้รับมือกับผลลัพธ์ต่างๆ อย่างเหมาะสม