บทนำ

จากบทความนี้ ผู้เขียนจะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับส่วนต่างๆ ของระบบการเทรด รวมถึงการตั้งค่าการเทรด การเข้าออก การปรับตำแหน่ง (การจัดการเงิน) และการจัดการความเสี่ยง ถ้าเป็นไปได้ ควรรวมถึงจิตวิทยาการเทรดที่ถูกต้องด้วย ผู้เขียนจะพูดคุยในลำดับนี้อย่างละเอียด โดยเรียงตามลำดับ “ในความหมายที่แท้จริง การเก็งกำไรจำเป็นต้องมีการประเมิน” — Richard D. Wyckoff ก่อนที่เราจะเริ่มทำการเทรด เราจำเป็นต้องมีการตั้งค่าพื้นฐานบางอย่างเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเทรดที่เรากำลังจะทำ การตั้งค่าเหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อให้การเทรดของเรามีเงื่อนไขที่จำเป็นก่อนที่จะดำเนินการจริง บทความนี้จะรวบรวมการตั้งค่าพื้นฐานสำหรับการเข้าทำการเทรดเพื่อให้ทุกท่านได้ศึกษา

การเลือกตลาด

ก่อนที่เราจะเข้าทำการเทรด เราต้องเลือกตลาดที่เราจะทำการเทรด ซึ่งประกอบด้วย: 1. สภาพคล่อง ซึ่งแสดงถึงระดับความเคลื่อนไหวของตลาด ในแง่หนึ่งมันคือความยากง่ายในการเข้าหรือออกจากตลาด ทั้งนี้ยังสะท้อนในส่วนต่างราคา (เช่น สเปรด) ซึ่งเทรดเดอร์ทุกคนต้องการให้ประสบการณ์การเทรดรวดเร็วและมีคุณภาพ เพื่อให้สามารถเข้าถึงราคาที่ดีที่สุดในขณะนั้น ด้วยเหตุนี้ยิ่งมีสภาพคล่องมาก ยิ่งเป็นผลดีต่อการเทรดของเรา 2. ขนาดทุนการเทรด หลายๆ ตลาดหรือโบรกเกอร์มีข้อกำหนดบางประการเกี่ยวกับขนาดทุนเริ่มต้นในการเปิดบัญชี ที่สำคัญคือต้องเข้าใจว่า ในตลาดที่มีความผันผวนราคาอย่างมีนัยสำคัญ ขนาดทุนที่มากกว่าจะเปิดโอกาสให้เทรดเดอร์เทรดได้มากขึ้น โดยบางโบรกเกอร์ในตลาดอาจมีการเสนอเลเวอเรจ เช่น ในตลาด Forex ซึ่งเทรดเดอร์สามารถเทรดสัญญาขนาดใหญ่ด้วยทุนที่น้อยลง ซึ่งทั้งนี้จะทำให้ผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้นสูงขึ้น แต่ความเสี่ยงก็เช่นกัน 3. ลักษณะของตลาด เนื่องจากแต่ละเทรดเดอร์มีแนวคิดการเทรดที่แตกต่างกัน การทำความเข้าใจลักษณะของตลาดก่อนทำการเทรดก็ยังสำคัญ เช่น หากเป็นเทรดเดอร์ที่ติดตามแนวโน้มจะต้องค้นหาตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน 4. ความผันผวน ซึ่งแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของราคาในช่วงระยะเวลาที่เฉพาะเจาะจง สำหรับเทรดเดอร์ที่เน้นการทำกำไรจากตลาดในระยะสั้นหรือช่วงการชะลอตัว ตลาดจำเป็นต้องมีความผันผวนเพียงพอเพื่อให้ได้ประโยชน์จากการเทรด และตลาดเงินจะเป็นทางเลือกที่ดี

ทิศทางของตลาด

ไม่ว่าคุณจะมีแนวคิดการเทรดอย่างไร เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ยังจำเป็นที่จะต้องประเมินทิศทางการเปลี่ยนแปลงราคาของตลาดในปีที่ผ่านมา เพื่อเข้าใจตำแหน่งทางการตลาดที่เทรดเดอร์อยู่ การเทรดนั้นสร้างกำไรจากความเคลื่อนไหวของตลาด แต่ตลาดในความเป็นจริงมีสามทิศทางที่สามารถเปลี่ยนแปลงราคาได้ คือ ไปข้างบน ไปข้างล่าง และการเคลื่อนไหวในช่วงเวลาระยะหนึ่ง โดยทั่วไปแล้วตลาดจะมีการเคลื่อนไหวลดหรือเพิ่มราคาอย่างมีนัยสำคัญในช่วงประมาณ 15%-20% ของเวลา ส่วนที่เหลือจะอยู่ในช่วงการเคลื่อนไหวในแนวขนาน และหากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่ติดตามแนวโน้ม คุณควรจะควบคุมการขาดทุนในช่วงการเคลื่อนไหวในแนวขนานเพื่อให้สามารถเปิดการเทรดในช่วงแนวโน้มที่ชัดเจนได้

ช่วงเวลาในการเทรด

หากเทรดเดอร์ได้เลือกตลาดที่ต้องการทำการเทรด มีความชัดเจนในแนวคิดการเทรด และทิศทางหลักของตลาดในขณะนี้ตรงตามแนวคิดการเทรด เทรดเดอร์ยังคงต้องการจุดสำคัญก่อนการเข้าทำการซื้อขาย ซึ่งก็คือ ราคาต้องเริ่มเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่เทรดเดอร์คาดหวังไว้ เช่น เทรดเดอร์ที่ติดตามแนวโน้มจะรอจนกว่าราคาเริ่มเคลื่อนไหวก่อนเข้าตลาดทำการเทรด