กลยุทธ์การซื้อขาย

กลยุทธ์การซื้อขายใดๆ จะต้องสร้างขึ้นจากการวิเคราะห์ตลาดที่แน่นอน ซึ่งสอดคล้องกับวิธีการวิเคราะห์ของคุณ สิ่งที่เรียกว่า “ความรู้สึกในการซื้อขาย” หรือ “สัญชาตญาณ” ไม่สามารถใช้เป็นแนวทางหรือฐานสำหรับการซื้อขายได้ กลยุทธ์การซื้อขายต้องรวมกับวิธีการวิเคราะห์ หากแยกออกจากวิธีการวิเคราะห์ กลยุทธ์การซื้อขายนั้นจะไม่มีความหมายในการปฏิบัติจริง ผู้เชี่ยวชาญการซื้อขายหลายคนได้ตัดการซื้อขายในจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดออกจากกลยุทธ์การซื้อขายของพวกเขาเนื่องจากถือว่าเป็นบทเรียนที่ลึกซึ้งแต่สำหรับฉัน การซื้อขายในจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดกลับเป็นพื้นฐานและกุญแจสำคัญ เนื่องจากวิธีการวิเคราะห์ของฉันมุ่งเน้นไปที่การพิจารณาจุดเปลี่ยนของตลาด ดังนั้นกลยุทธ์การซื้อขายของฉันจึงแตกต่างจากกลยุทธ์การซื้อขายตามแนวโน้ม ขั้นตอนอาจเหมือนกัน แต่เนื้อหาแตกต่างกัน กลยุทธ์การซื้อขายของฉันประกอบไปด้วยหลายขั้นตอน ได้แก่ ทดลองซื้อขาย, พื้นฐาน, ล็อคการซื้อขาย, เพิ่มตำแหน่ง, เปลี่ยนเดือน และปิดการซื้อขาย

กลยุทธ์การทดลองซื้อขาย

กลยุทธ์การทดลองซื้อขายคือกลยุทธ์การเปิดตำแหน่งเมื่อมีความเป็นไปได้ที่จุดเปลี่ยนใหญ่ของตลาดจะเกิดขึ้นก่อนที่เราจะคาดการณ์ไว้ ขนาดตำแหน่งจะเบามาก โดยเงินทุนในการเปิดตำแหน่งจะควบคุมอยู่ที่ต่ำกว่า 10% โดยปกติจะอยู่ที่ 5% ในวิธีการวิเคราะห์ของเรา จุดเปลี่ยนใหญ่ของตลาดจะเป็นที่แน่ชัดว่าจะแสดงขึ้นตามที่เราคาดการณ์ไว้ แต่บางครั้งอาจจะมีจุดเปลี่ยนที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน ดังนั้นเราไม่สามารถแน่ใจได้ว่าการเปลี่ยนแปลงระดับตลาดนั้นจะเกิดขึ้นหรือไม่ ดังนั้นจึงต้องใช้กลยุทธ์ทดลองซื้อขาย พร้อมกับการตั้งจุดหยุดการขาดทุนไว้ที่ราคาสูงสุดของจุดนั้น จุดหยุดการขาดทุนไม่ใช่กลยุทธ์การซื้อขาย แต่เป็นหลักการในการซื้อขายตลอดเวลา ไม่ว่าเราจะมีความเชื่อมั่นในวิธีการวิเคราะห์ของเราเพียงใด ก็ยังไม่สามารถรับประกันได้ว่าเราจะยังคงมีสภาพจิตใจที่เป็นเหตุเป็นผลอยู่เสมอ เมื่อลูกค้าผิดพลาด เราจะใช้จุดหยุดการขาดทุนในการแก้ไขข้อผิดพลาดเท่านั้น

กลยุทธ์การเปิดตำแหน่งพื้นฐาน

กลยุทธ์การเปิดตำแหน่งพื้นฐานเกิดขึ้นในขณะที่มีจุดเปลี่ยนใหญ่อยู่ โดยเงินทุนในการเปิดตำแหน่งจะอยู่ที่มากกว่า 10% โดยทั่วไปจะควบคุมอยู่ที่ประมาณ 20% โดยตั้งจุดหยุดการขาดทุนอยู่ที่ราคาสูงสุดของจุดเปลี่ยน ทดลองซื้อขายและตำแหน่งพื้นฐานล้วนเป็นการเปิดตำแหน่ง แต่มีความแตกต่างที่สำคัญสี่ประการ:

1. การตัดสินใจเกี่ยวกับจุดเปลี่ยนใหญ่แตกต่างกัน
2. สภาพจิตใจที่แตกต่างกัน
3. ขนาดตำแหน่งที่แตกต่างกัน
4. วัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน

การเปิดตำแหน่งพื้นฐานมีบทบาทสำคัญ เป็นพื้นฐานของการดำเนินการในอนาคต การเปิดตำแหน่งพื้นฐานโดยทั่วไปจะทำในพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยใช้กลยุทธ์การเข้าตำแหน่งแบบแบ่งปัน โดยทั่วไปแล้ว จุดเปลี่ยนใหญ่ไม่ค่อยเกิดขึ้นในรูปแบบการกลับตัวแบบ V ภายในวันเดียว ส่วนมากจะมีการสร้างกระบวนการสะสมรูปแบบใหญ่หรือเล็ก บางครั้งกระบวนการนี้อาจยาวนานและน่าเบื่อหน่าย

กลยุทธ์การล็อคตำแหน่ง

ในมุมมองของฉัน การล็อคตำแหน่งแบ่งออกเป็นสองประเภท: แรกคือการล็อคโดยสมัครใจ และสองคือการล็อคแบบบังคับ การล็อคแบบบังคับคือเมื่อมีการเปิดตำแหน่งผิดทิศทาง และต้องล็อคเพื่อไม่ให้การขาดทุนขยายตัว การล็อคโดยสมัครใจจะตรงกันข้าม เป็นการล็อคเพื่อต้องการรักษากำไรเมื่อมีการคาดการณ์ว่าตลาดจะมีการเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามในอนาคต การปลดล็อคสำหรับการล็อคแบบบังคับคือเรื่องยาก หากทำการล็อคอย่างไม่ถูกต้องก็จะทำให้เกิดภาระจิตใจมากขึ้น ดังนั้นกลยุทธ์ที่ดีที่สุดคือ “ตัดขาดทุน” แทนที่จะล็อคกำไรแม้ว่าจะตัดผิดก็ต้องตัด” เราจะใช้กลยุทธ์การล็อคตำแหน่งโดยสมัครใจ

กลยุทธ์การเพิ่มตำแหน่ง

ถ้าคุณไม่ทราบคำว่าอันตรายของการเพิ่มตำแหน่ง จะไม่ทราบถึงประโยชน์ของการเพิ่มตำแหน่งได้ จากมุมมองหนึ่ง การเพิ่มตำแหน่งอาจยากกว่าการมีตำแหน่งพื้นฐาน สำหรับวิธีการวิเคราะห์ของเรา ความยากในการเปิดตำแหน่งพื้นฐานไม่ใช่เพียงแค่การตัดสินใจจุดเปลี่ยนของตลาด แต่เป็นการรักษาตำแหน่งหลังจากเข้าตลาด การเพิ่มตำแหน่งมีความยากในเรื่องการจับจังหวะที่จะเพิ่มตำแหน่ง

กลยุทธ์การเปลี่ยนเดือน

ในช่วงระยะยาวที่ปลอดภัยต่อการค้า การเปลี่ยนเดือนคือหนึ่งในสิ่งที่นักลงทุนต้องคิดถึงว่าจะเลือกใช้ระบบใดในการเปลี่ยนเดือน โดยทั่วไปแล้ว การเปลี่ยนเดือนจะสามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงเวลาที่ตลาดกำลังเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ดีและสามารถคาดการณ์ได้จากสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาด

กลยุทธ์การปิดการซื้อขาย

ในทางกลับกัน การปิดการซื้อขายไม่ใช่กลยุทธ์ที่สำคัญในวิธีการวิเคราะห์ของเรา การปิดการซื้อขายสามารถทำขึ้นหลังจากการวิเคราะห์ตลาดในระยะยาว ซึ่งเมื่อเทียบกับการเคลื่อนที่ของตลาดระยะสั้น ความเป็นไปได้ในการปิดตำแหน่งขนาดใหญ่ที่มีความหมายจะชัดขึ้นตามการเคลื่อนที่ของแนวโน้ม ถ้าบอกว่าวิธีการวิเคราะห์เหมือนกับการฟันดาบ กลยุทธ์คือวิธีการที่ใช้ในการประยุกต์ใช้งาน