การเปิดตำแหน่งกำหนดอัตราการชนะ

การเปิดตำแหน่งเป็นตัวกำหนดอัตราการชนะในขณะที่การปิดตำแหน่งจะกำหนดอัตราผลตอบแทน หากต้องการเพิ่มอัตราการชนะก็ต้องมองหาวิธีการเปิดตำแหน่งที่เหมาะสม การพยายามเพิ่มอัตราการชนะโดยการปิดตำแหน่งนั้นไม่มีความหมาย เนื่องจากความสมมาตรของการเทรด ผลสรุปคือหากอัตราการชนะเพิ่มขึ้น อัตราผลตอบแทนจะลดลง และผลกำไรโดยรวมจะยังคงเหมือนเดิมกับที่ผ่านมา.

การปิดตำแหน่งกำหนดอัตราผลตอบแทน

การเพิ่มอัตราส่วนกำไรขาดทุนสามารถทำได้จากวิธีการปิดตำแหน่งเท่านั้น เหตุผลเป็นไปในทำนองเดียวกัน ระบบการเทรดที่มีกำไรส่วนใหญ่จะมีความสำคัญที่แตกต่างกัน บางระบบมุ่งเน้นไปที่อัตราการชนะเมื่อเปิดตำแหน่ง บางระบบมุ่งเน้นไปที่อัตราผลตอบแทนเมื่อปิดตำแหน่ง.

วิธีการเพิ่มอัตราการชนะเมื่อเปิดตำแหน่ง

ยกตัวอย่างในช่วงเวลาหนึ่งให้เปิดตำแหน่งในทิศทางเดียว เช่น การเปิดตำแหน่งขายในขาขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 60 วัน เมื่อเกิดแนวโน้มเช่นนี้จะทำให้ได้เปรียบในอัตราการชนะ.

วิธีการเพิ่มอัตราผลตอบแทนเมื่อปิดตำแหน่ง

อัตราผลตอบแทนที่ดีคือ การขาดทุนน้อยและมีกำไรมาก ยกตัวอย่างในกลยุทธ์การเทรดที่เน้นการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงกล่าวว่า การเปิดตำแหน่งไม่สำคัญมาก แต่การจัดการคำสั่งเทรดอย่างเหมาะสมคือสิ่งที่สำคัญที่สุด นี่คือรูปแบบที่โดดเด่นในเรื่องอัตราผลตอบแทนเมื่อปิดตำแหน่ง.

ความแตกต่างระหว่างสองสไตล์การเทรด

ทั้งสองรูปแบบการเทรดสามารถทำกำไรได้ แต่มีจุดเน้นที่แตกต่างกัน หนึ่งเน้นไปที่การเปิดตำแหน่ง ในขณะที่อีกหนึ่งมุ่งเน้นไปที่การปิดตำแหน่ง ระบบการเทรดที่มีอัตราการชนะเมื่อเปิดตำแหน่งมักจะมีช่วงเวลาประมาณครึ่งหนึ่งที่อยู่ในสถานะไม่มีตำแหน่ง เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่ไม่ทราบ.

การโต้แย้งในความสำคัญของการเปิดและปิดตำแหน่ง

ผู้คนเต็มไปด้วยความโต้แย้งว่า การเปิดตำแหน่งสำคัญกว่าหรือการปิดตำแหน่งสำคัญกว่า เนื่องจากพวกเขามิได้แยกแยะระหว่างสองรูปแบบการเทรดนี้อย่างชัดเจน การมองในมุมมองของตนเองต่อแนวทางการเปิดตำแหน่งของบุคคลอื่นอาจทำให้เกิดความไม่เข้าใจกันได้.

ความเป็นไปได้ในการรวมสองรูปแบบการเทรด

ยังไม่เคยมีผู้ใดที่สามารถรวมข้อได้เปรียบทั้งสองนี้ไว้ในระบบการเทรดเดียวกัน.