การวิเคราะห์พื้นฐาน

การวิเคราะห์พื้นฐาน: เน้นการอ่านประวัติศาสตร์และหนังสือประเภทต่างๆ รวมถึงปรัชญา การเมือง การทหาร เศรษฐศาสตร์ และวัฒนธรรม; ติดตามเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกและในประเทศปัจจุบัน รวมถึงความคิดเห็นที่หลากหลาย ทั้งด้านบวกและลบ ค่อย ๆ จะชัดเจนว่าใครเป็นผู้ให้ความคิดเห็นที่แท้จริง และไม่ใช่แค่เสียงสะท้อนผลประโยชน์; จากนั้นจึงจะพัฒนาความคิดเห็นและข้อสรุปของตนเอง โดยผนวกเหตุการณ์เฉพาะและความคิดเห็นบางประการ ความสามารถในการตัดสินใจจะค่อย ๆ มีความแม่นยำมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป นี่ถือเป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับแนวโน้มของโลกและประเทศ ใช้ประวัติศาสตร์และสถานการณ์ปัจจุบันในการสรุปข้อคิดเห็น หลังจากนั้นจึงนำไปปฏิบัติ มีความหมายในการมองโลก แต่เนื่องจากสถานะของคุณ คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ คุณเพียงแต่หวังว่าจะสามารถตามกระแสของยุคสมัยได้ หากคุณสามารถเข้าใจโลกได้จริง ๆ คุณก็สามารถมีส่วนช่วยประเทศและโลกได้

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

การวิเคราะห์ทางเทคนิค: การเปิดตำแหน่ง: 1 ชั่วโมงและ 4 ชั่วโมงในทิศทางเดียวกัน; การทำกำไร: ย้อนกลับใน 4 ชั่วโมง; การหยุดขาดทุน (eur/usd: 1H (stopmax30), 4H (stopmax50) ทั้งในทิศทางเดียวกัน ฉันใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (13) โดยมีการสั่นคลอนของรอบอยู่ในนั้น และยังต้องการการสนับสนุนจากทิศทางรายวันและรายสัปดาห์ นี่คือระบบติดตามแนวโน้ม โดยปกติจะต้องมีตำแหน่งอยู่เสมอ ในช่วงที่ตลาดผันผวนจะขาดทุน แต่ในช่วงที่เป็นแนวโน้มจะมีกำไร และในช่วงที่เป็นแนวโน้มจะต้องเพิ่มตำแหน่งเพื่อให้แน่ใจว่ามีกำไรโดยรวม แค่รู้ว่าหากมีแนวโน้มเดียวกัน แนวโน้มที่สวนทางก็จะตามมาเอง การหยุดขาดทุน: ผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดมีการหยุดขาดทุนสูงสุดที่แตกต่างกัน ผสมผสานกับเครื่องมือ ART คุณก็สามารถคำนวณได้เอง ฉันใช้ 2ART เป็นการหยุดขาดทุนสูงสุด โดยทั่วไปแล้ว สามารถทำได้ที่จุดเริ่มต้นของแนวโน้ม ไม่ควรพิจารณาสิ่งที่ละเอียดมากนัก แต่จำเป็นต้องใช้การปฏิบัติจริง ฉันยังได้รวม MACD และ VOL (ปริมาณการขึ้นลง) ช่วยในการวิเคราะห์อีกด้วย นอกจากนี้ยังใช้ทฤษฎีคลื่นเป็นวิธีการตัดสินใจแนวโน้มด้วยการยืนยันแนวโน้ม

การจัดการเงิน

การจัดการเงิน: หยุดขาดทุนรายวัน 2%, หยุดขาดทุนรายสัปดาห์ 5%, หยุดขาดทุนรายเดือน 10%, หยุดขาดทุนรายไตรมาส 20%, หยุดขาดทุนรายปี 50% ถ้าขาดทุนเกินกว่าที่กล่าวมา ควรหยุดทำการซื้อขายเพื่อปกป้องเงินลงทุนให้อยู่ในระดับสูงสุดเพื่อลดความเสี่ยง ในทางกลับกันอาจทำให้การทำกำไรช้าลง มีอาจารย์ท่านหนึ่งสอนให้ฉันซึ่งฉันอยากนำมาแชร์ให้ทุกคน: 1. ตลาดบางตัวมีความสุ่มเป็นไปได้ทั้งขาขึ้นและขาลง รู้ว่าอะไรที่ไม่สามารถทำได้ก็จะทำให้จับจังหวะใหญ่ได้ 2. ตลาดขาขึ้นรอการปรับตัวจากนั้นก็ทำการซื้อ มันง่ายมากที่ให้ทำแบบนี้ 3. กำหนดวิธีการชัดเจนตามทิศทางที่ใหญ่ 4. สำหรับมือใหม่ควรเลือกตลาดที่มีความผันผวนต่ำและเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นคง เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีการแตกออกหลอกตาน้อย 5. เลือกทิศทางที่ชัดเจนที่สุดและช่วงที่ชัดเจนที่สุด 6. ความเสี่ยงไม่ควรเกิน 5%, หากลงทุน 10,000 ดอลลาร์ ต้นทุนต่อการซื้อขายไม่ควรเกิน 500 ดอลลาร์ 7. หากไม่สามารถถือครองตำแหน่งที่มีกำไรได้นาน ๆ จะทำให้ไม่ได้กำไรในระยะยาว 8. เมื่อตำแหน่งระยะสั้นปรับตัวเสร็จสามารถทำการซื้อขายได้ ไม่ต้องวางแผนรัดกุมเหมือนระยะกลาง 9. ควรกำหนดการซื้อเฉพาะช่วงคลื่นหลักและไม่ต้องทำการซื้อในช่วงปรับตัว 10. ระยะกลางควรลองใช้มุมมองแบบเบา ๆ 11. ทุกระดับราคาที่สามารถทำการซื้อขายได้มีเหตุผลเสมอ 12. การซื้อในระยะกลางต้องมีความมั่นใจในทิศทาง และสามารถตั้งจุดหยุดขาดทุนที่ต่ำสุดข้างหน้า 13. ไม่ว่าจะแนวทางใด ต้องสามารถจับตลาดใหญ่ได้นั้นถือว่าเป็นแนวทางที่ดี เพราะการจับตลาดใหญ่ครั้งเดียวสามารถครอบคลุมการขาดทุนได้หลายครั้ง 14. การพยายามหาจุดต่ำในตลาดถือเป็นนิสัยที่ไม่ดี 15. สำหรับการซื้อขายระยะสั้นจึงควรให้ความสำคัญกับข้อมูลภายในวัน ยังสำคัญมากที่จะทราบว่าตรงเวลานั้นมีตลาดใหญ่เกิดขึ้นหรือไม่ เพื่อความสะดวกในการทำกำไรและการปกป้อง 16. บางคนไม่สามารถทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอเพราะการเรียนรู้ที่ซับซ้อนมากขึ้น บางคนเพียงใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ก็สามารถทำได้ดี 17. การซื้อที่สวนทางต้องใช้ขนาดเล็ก ขึ้นไปในตลาดที่มีการปรับตัวขึ้นแรง เป็นต้น 18. ถ้ามีกราฟแท่งเทียนที่ค่อนข้างอ่อนแอในช่วงเช้าเพราะไม่มีเงินทุนขนาดใหญ่เข้ามา ควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปซื้อเก็งกำไร

ผู้เขียน: ท้องฟ้าสูงฟ้าจาง