1. ต้องมีความอดทน

การมีความอดทนไม่ใช่เรื่องง่าย นักลงทุนส่วนใหญ่เมื่อเริ่มลงทุนมักจะหวังผลตอบแทนทันที แต่การลงทุนที่แท้จริงต้องใช้ระยะเวลาหลายปีหรือแม้แต่หลายสิบปีจึงจะเห็นผลจริง นอกจากนี้การเล่นโป๊กเกอร์ก็เช่นกัน คุณไม่สามารถชนะในทุกมือได้ บางครั้งคุณอาจเสียแม้กระทั่งเมื่อดื่มน้ำเย็นไป ดังนั้นไม่มีหลักการลงทุนใดที่จะใช้ได้ตลอดไป แต่ถ้าหากคุณมีหลักการที่เชื่อถือได้ คุณก็ควรยึดมั่นต่อไปและรักษาความอดทนสุดท้ายจะประสบผลสำเร็จในระยะยาว ซึ่งในช่วงปลายปี '90 สื่อบางแห่งกล่าวถึงวอร์เรน บัฟเฟตที่ไม่ยอมรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ จริง ๆ แล้วบัฟเฟตไม่สนใจเทคโนโลยีใหม่เพราะเขาไม่เข้าใจบริษัทและการประเมินค่าของพวกเขา แม้ในขณะนั้นจะมีผลการดำเนินงานที่ไม่ดีเท่าตลาด แต่เขาก็ยังยืนหยัดในวิธีการของเขา สุดท้ายบัฟเฟตก็ได้รับผลตอบแทนจากหลักการเหล่านั้นเนื่องจากมันเป็นกลยุทธ์การลงทุนที่มั่นคงซึ่งเขาใช้ความอดทนและยึดมั่นในระยะยาวเพื่อชัยชนะ

2. ต้องมีข้อได้เปรียบ

นักลงทุนที่มีชื่อเสียงอย่างปีเตอร์ ลินช์กล่าวว่า “การลงทุนโดยไม่ทำการวิจัยนั้นเหมือนกับการเล่นโป๊กเกอร์โดยไม่ดูไพ่ที่เปิด” นักโป๊กเกอร์มืออาชีพมีความคิดที่เยือกเย็นมากกว่าคนทั่วไป ขณะที่คนปกติจะถูกอารมณ์ครอบงำและไม่มีความรู้รอบด้านเหมือนกับนักโป๊กเกอร์มืออาชีพ ตลาดการเงินเป็นเกมการพนันขนาดใหญ่และผู้ที่ไม่สามารถตัดสินใจได้อย่างมีสติจะถูกนักพนันมืออาชีพใช้ประโยชน์จากอารมณ์เหล่านั้น

3. ควรพยายามทำกำไรในช่วงที่ดีที่สุด

เมื่อเล่นโป๊กเกอร์ หากคุณรู้สึกว่าคุณกำลังโชคดีคุณสามารถลงเงินเดิมพันทั้งหมดได้ แต่ถ้าอีกฝ่ายลงเงินตามคุณแล้วคุณแพ้ ในการลงทุน คุณอาจประสบกับสภาพแวดล้อมที่มีแนวโน้มที่ดี เช่น การประเมินค่าต่ำหรือตลาดที่ถูกขายเกินจริง ในกรณีนี้ หากคุณลงทุนในหุ้นบางตัวอย่างหนัก ก็จะเพิ่มโอกาสในการทำกำไรให้มากกว่าการขาดทุนซึ่งถือว่าเป็น “ความเสี่ยง”.

4. หาเหตุผลที่คนอื่นวางเดิมพันตรงข้ามกับคุณ

หากมีสิ่งที่ต้องจำไว้จริง ๆ ก็ต้องบอกว่า “เราแทบไม่รู้อะไรเลย” เราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าธุรกิจของบริษัทหนึ่งจะเป็นอย่างไรในวันนี้หรือในอนาคต แต่เราโดยรวมรู้ไม่มากพอที่จะตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ การกำหนดและปฏิบัติตามแผนที่ชัดเจนคือสิ่งที่เราสามารถทำได้ คุณต้องเผชิญหน้ากับความจริงและหลีกเลี่ยงการตกหลุมพรางของความเป็นไปได้

5. การพลาดจะต้องมีค่าใช้จ่าย

ในโป๊กเกอร์มีแนวทางการเล่นที่เรียกว่า “การผ่าน” ซึ่งในแวดวงการลงทุนเรียกว่าการป้องกันความเสี่ยง ไม่ว่าจะเรียกว่าอะไรก็เป็นรูปแบบการจัดการความเสี่ยง หากเป้าหมายของคุณสอดคล้องกับมูลค่าหุ้น คุณต้อง พร้อมที่จะลดขนาดการลงทุนของคุณ คุณต้องปรับกลยุทธ์ไปสู่การป้องกันเมื่อราคาหุ้นเริ่มลดลง

6. หากคุณไม่สามารถโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้ ให้หยุดพัก

ดอยล์ บรันสัน ผู้ที่ได้รับรางวัลแชมป์โป๊กเกอร์โลกสองสมัย ได้หยอกล้อเกี่ยวกับหนังสือที่ถือว่าเป็นคัมภีร์โป๊กเกอร์ของเขา “ซูเปอร์ซิสเต็ม” ว่า ในตอนแรกเขาเคยคิดชื่อหนังสืออื่น ๆ “ฉันทำเงินล้านจากการเล่นโป๊กเกอร์ได้อย่างไร” และ “การเล่นกอล์ฟทำให้ฉันขาดทุนล้านดอลลาร์”

7. รู้ว่าเมื่อไหร่ควรถอยออกไป

เวลาพูดถึงการผ่าน หากมีเพื่อนที่ชอบดูภาพยนตร์อย่าง “นักพนัน” สามารถจินตนาการถึงภาพ: นักพนันที่ใช้สายตาที่เฉียบคมสำรวจคู่แข่งแล้วก็ทิ้งการ์ดไปข้างๆ พูดว่า “ไม่ตาม” เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องประเมินว่าเมื่อไหร่ที่คุณควรออกจากเกมและนำเงินที่คุณมีไปจากตลาดในตอนที่คุณรู้ว่าคุณอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดี

8. พัฒนาความชำนาญในหลายด้าน

ในตลาดการเงิน ความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาคือความแตกต่างระหว่างการชนะในบางครั้งและการชนะอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีรูปแบบการลงทุนใดที่จะใช้ได้ตลอด ยิ่งถ้าคุณไปตามคำแนะนำที่ไม่มีเหตุผลแล้วคุณก็จะแพ้ในการลงทุน

9. รู้จักแรงจูงใจที่แท้จริงของตนเอง

คุณทำอย่างไรถึงจะจัดการเงินของคุณได้? มีความรักในการลงทุนหรือไม่? คุณมีความรู้สึกที่จะไล่ตามเป้าหมายเมื่อคุณชนะและโกรธเมื่อแพ้หรือไม่? ปัญหาที่ยากที่สุดคือคุณสามารถจัดการอนาคตของคุณได้จริงหรือไม่?

10. ทำความเข้าใจจุดแข็งและจุดอ่อนของคุณ

การวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของคุณเองนั้นต้องทำการเปรียบเทียบกับผู้อื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่ดีกว่าคุณเอง จุดอ่อนคือสิ่งที่คุณทำได้ไม่ดีเท่าที่คนอื่นทำ คุณต้องเผชิญกับความเป็นจริงและปรับปรุงจุดอ่อนของคุณอย่างต่อเนื่อง