หนึ่ง, เทคนิค

ฉันเรียนรู้ด้วยตนเองและเข้าใจเพียงครึ่งเดียว โดยวิเคราะห์กราฟประวัติศาสตร์ ทำให้ฉันจำ K-line, Bollinger Bands และทางวิ่ง (ไม่ผิดพลาด คือทางวิ่งไม่ใช่ทางเดิน) เพราะมีผู้เชี่ยวชาญบอกว่าคำว่าทางเดินของฉันกับคำจำกัดความในหนังสือไม่ตรงกัน เพื่อไม่ให้มีคนขำ ฉันใช้คำพูดของตัวเองว่าคือเส้น Bollinger ที่ล้อมรอบ ทุกช่วงดูเหมือนไส้กรอก และรูปแบบการเคลื่อนไหวของสามสิ่งนี้ เพื่อนบางคนอาจถามว่า: รูปแบบคือรอยเท้าของประวัติศาสตร์ คุณไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าสิ่งนั้นจะเคลื่อนที่อย่างไรในขั้นถัดไป จริงอยู่ที่มีบางจุด แต่สำหรับฉันที่ทำการซื้อขายระยะสั้นนั้นยังมีหลักการให้ยึดมั่น เช่น ถ้ามีคนหนึ่งนั่งอยู่กับที่และต้องการถ่ายอุจจาระ คุณไม่รู้ว่าเขาท้องเสียหรือท้องผูก จึงไม่รู้ว่าต้องเตรียมกระดาษชำระหรือจุก แต่เมื่อเขานั้นพ่นอุจจาระออกมา 3 เมตร ฉันว่าสิ่งที่คุณควรทำคือส่งกระดาษชำระให้เขา สถานการณ์ก็เหมือนกัน เมื่อถึงจุดหนึ่ง ย่อมต้องเคลื่อนที่ไปในรูปแบบที่เฉพาะเจาะจง เราต้องทำความเข้าใจว่ามันจะเคลื่อนไปในรูปแบบใด

สอง, การจัดการเงิน

การทำการค้าสกุลเงินที่แตกต่างกัน ความหนาแน่นในการสั่งซื้อจะแตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น GJ และ EU หากสั่งซื้อครั้งละครึ่ง GJ จะทำให้คุณต้องยืมบัตรประชาชนจากญาติอย่างรวดเร็ว แต่ EU จะไม่เป็นเช่นนั้น บางคนสั่งขาย 1% หรือแม้กระทั่งน้อยกว่านั้น จนถึงจุดที่ไม่สำคัญ ถึงแม้ว่าโลกจะแตกก็ไม่ขาดทุน แต่กำไรก็เป็นเพียงจิ๊บจ๊อย มันเหมือนเป็นการเล่นเกมกับตัวเลข และแสดงให้เห็นว่าคุณไม่มีเทคนิคและดื้อดึง การทำเช่นนี้ก็ทำให้ฟังก์ชันหยุดขาดทุนนั้นเสียไป สำหรับประสบการณ์ของฉันในการทำการค้า GJ ควรใช้ประมาณ 10% ของยอดรวม ในขณะที่ EU อยู่ที่ 25-50% เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากเงินทุนสูงสุดและค่อนข้างปลอดภัย สำหรับการหยุดขาดทุน ฉันไม่เห็นด้วยกับการใช้ตัวเลขหยุดขาดทุนที่ตายตัว ดูสถานการณ์ ถ้ามันเปลี่ยนไปในรูปแบบที่แตกต่างกัน คุณควรจะดึงเงินออกให้เร็วที่สุด เหมือนกับตัวอย่างที่ผ่านมา ถ้าคนท้องเสียได้ใส่กางเกงเสร็จแล้ว คุณจะถือกระดาษชำระรออยู่ที่นั่นหรือไม่?

สาม, สภาพจิตใจ

คุณควรมีแผนการทำกำไรที่ค่อนข้างสมเหตุสมผล การทำการค้าระยะสั้นคือการขโมยเงิน ควรหลีกเลี่ยงความโลภในการหามากเกินไป และยิ่งไม่ควรมีความคิดว่าทำกำไร 100 ในวันนี้ และ 200 ในวันพรุ่งนี้ หากดำเนินตามสัดส่วนแบบนี้จะเป็นอย่างไร มีคนที่มองหากำไร 5 จุด แต่คิดถึง 10 จุด และถ้าทำกำไร 10 จุดก็มองถึง 100 จุด น้อยกว่าที่คาดหมายก็จะตีตนเองเสียใจที่วิ่งออกไปเร็วเกินไป ในขณะที่สูงไปก็มานั่งเสียใจที่วิ่งออกไปช้า สิ่งนี้เป็นการแสดงเฉพาะถึงความโลภ หากไม่แก้ไข จุดนี้การเข้ามาเล่นในตลาด Forex ก็เหมือนกับการนำเงินไปทิ้ง ประสบการณ์ของฉันคือความพอใจนำมาซึ่งความสุข ก็ดูเงินที่น้อยในแต่ละวันค่อยๆ เพิ่มมากขึ้น และโดยปกติจะให้กำลังใจตนเองเสมอ ——— การมีกำไรสักนิดก็ถือว่าสามารถใช้จ่ายในวันนั้นได้แล้ว ดีใจที่หลีกเลี่ยงการขาดทุนที่ใหญ่โต