แนวโน้มราคา

มีแนวโน้มราคาซึ่งเป็นฉันทามติของนักเทรดทางเทคนิคทุกคน มิฉะนั้นเราจะกลายเป็นผู้ที่เดินอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าและคิดว่าตลาดเคลื่อนไหวเหมือนผู้ที่เมาเหล้า เมื่อราคามีแนวโน้มก็ต้องมีวิธีการเพื่อกำหนดแนวโน้ม ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เป็นวิธีที่ดีในการระบุแนวโน้มและการดำเนินการจริง แต่ว่ามีความเข้าใจผิดที่หลายคนใช้เกี่ยวกับมันที่ต้องการนำเสนอ

การใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่

คนทั่วไปมักจะคิดว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สามารถใช้เป็นแนวรับและแนวต้านได้ วิธีการคือถ้าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 60 วันเคลื่อนไปข้างบน แสดงว่าตลาดอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น เมื่อราคาถึงค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ XX สามารถเข้าซื้อได้ และยังแยกประเภทแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งออกเป็นหลายประเภท เช่น แนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งมาก แนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง และแนวโน้มขาขึ้นที่เคลื่อนไหวไปมา ซึ่งแต่ละประเภทสอดคล้องกับช่วงเวลาของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่แตกต่างกัน วิธีการนี้ไม่มีปัญหาหากแต่ยังขาดบางสิ่งบางอย่าง

ควรพิจารณา

คุณเคยคิดไหมว่าหากใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ในการดำเนินการ ถ้าราคาต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่จะทำอย่างไร จะตัดขาดทุนหรืไม่ตัดขาดทุน? หลังจากตัดขาดทุนแล้ว ถ้าขึ้นกลับมาจะทำอย่างไร? จะซื้อเข้ามาหรือไม่? ปัญหาเหล่านี้ต้องได้รับการพัฒนาจากรายละเอียดที่เล็กที่สุด ในกระแสแนวโน้มหนึ่งการหาจุดเข้าที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่นักเทรดทุกคนปรารถนา

การกำหนดสถานะตลาด

ตลาดมีสองแบบ: ตลาดขาลงกับตลาดที่เคลื่อนไหวไปมา วันนี้อยากเสนอประเภทที่สาม: การเบี่ยงเบน เกี่ยวกับการเบี่ยงเบน: ตลาดมีคุณสมบัติในการกลับคืน ราคาที่เพิ่มขึ้นเร็วเกินไปหรือที่ลดลงเร็วเกินไปจะทำให้เกิดการเบี่ยงเบน ซึ่งจะทำให้ราคากลับคืน

การวิเคราะห์แนวโน้มด้วยค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่

สามารถใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ในการวิเคราะห์สามประเภทคือ: ตลาดขาขึ้น ตลาดเคลื่อนไหวไปมา และการเบี่ยงเบน โดยราคามักจะอยู่ห่างจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ในระดับสูงหรือต่ำ การใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สามารถบอกได้ว่าอนาคตราคาจะเป็นอย่างไร

ตัวอย่างการวิเคราะห์

อย่างเช่น สำหรับตลาด USD/JPY ในช่วงนี้ในแผนภูมิ 4 ชั่วโมง ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10 วันและ 20 วัน เราจะพบว่าค่าเฉลี่ย 10 วันอยู่เหนือค่าเฉลี่ย 20 วันเสมอ และทุกครั้งที่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้งสองติดกัน นั่นคือเวลาที่ดีที่สุดในการซื้อ อีกตัวอย่างหนึ่งคือเมื่อราคาทองคำลดลงซึ่งก็กระทำด้วยวิธีเดียวกัน และสุดท้ายเมื่อคืนที่ผ่านมาก็พบว่ามีการตกต่ำอย่างรุนแรง

แนวคิดเกี่ยวกับกลยุทธ์การเทรด

ดังนั้นเมื่อมีค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ เราสามารถเข้าใจสถานะของตลาดได้ ส่งผลให้เราตัดสินใจเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสม เช่น หากตลาดอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น เราก็ควรหาช่วงที่เหมาะสมเพื่อซื้อ แทนที่จะคิดว่าเป็นเวลาที่ราคาจะต่ำและพยายามซื้อให้ถูกทุกวัน

การรอคอยสัญญาณการเทรด

อย่างไรก็ตามหลังจากรอคอยสัญญาณการเทรด คุณต้องคำนึงถึงจุดที่คุณจะตั้งค่า Stop-loss ด้วย สิ่งนี้ทำให้คุณเตรียมตัวอย่างถูกต้องเพื่อไม่ให้รู้สึกวิตกกังวลในขณะที่คุณเริ่มการซื้อขาย

สัญญาณการเทรด

เมื่อคุณรู้จักใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เพื่อหาช่วงเวลาแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือไปดูกระแสในระดับที่เล็กลง เช่น หาช่วงเวลาที่ซับซ้อนมากขึ้นในระดับ 30 นาทีหรือ 15 นาที หากในช่วงเวลา 4 ชั่วโมง ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สองตัวติดกันแสดงถึงแนวโน้มการลดลงใหม่ แต่เมื่อคุณตรวจสอบใน 15 นาทีเห็นว่ามันกำลังเพิ่มขึ้น คุณจะเข้าไปขายทำไม? แต่ถ้าคุณพบว่าเป็นแถวยาวขึ้น นั่นคือเวลาที่คุณสามารถขายได้

บทสรุป

ในวันนี้เราได้พูดถึงการใช้งานค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10 และ 20 วันในแผนภูมิ 4 ชั่วโมงเพื่อมองหาสัญญาณการเทรด จากนั้นมีการประยุกต์ใช้ในระดับที่เล็กลง เช่น 15 นาทีหรือ 30 นาที ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่นั้นเป็นเครื่องมือที่ดี และหากใช้เป็นอย่างดี สามารถจับตลาดที่สำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ