1. เล่นเฉพาะเกมที่คุณมั่นใจ

คำกล่าวที่ฉลาดนี้สอนนักลงทุนให้เลือกเงินตราและช่วงเวลาที่เหมาะสมในการซื้อและขาย เช่น เมื่อเราซื้อเงินตราประเภทหนึ่ง เราจะรู้สึกสบายใจที่ได้อยู่ในฝ่ายของมัน มันพร้อมที่ทำงานให้กับเรา เราจะพยายามไม่ไปต่อสู้กับตลาด เนื่องจากเรารู้ว่าเราชนะมันไม่ได้ เมื่อใดก็ตามที่เรารู้ว่าเราได้ทำการเลือกที่ขัดแย้งกับตลาด เราก็จะถอยออกมาและยืนอยู่ข้างฝ่ายที่มีอำนาจแทน

2. การล้มไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ตราบใดที่คุณได้เรียนรู้จากมัน

นักลงทุนจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะหลีกหนีจากความผิดพลาดในการเทรดและยกระดับตัวเองให้สูงขึ้น ให้ทุกการสูญเสียในการเทรดของเรากลายเป็นพื้นฐานในการพัฒนาทักษะการเทรดในระดับที่สูงขึ้น

3. ไม่ว่าวันนี้จะเลวร้ายแค่ไหน วันพรุ่งนี้จะเป็นโอกาสในการแก้ไข

ในฐานะนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ คุณไม่สามารถแบกภาระจากเมื่อวานเข้าสู่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ ชิ้นส่วนที่หลงเหลือจากการเทรดที่ล้มเหลวครั้งก่อนจะต้องได้รับการทำความสะอาดอย่างหมดจรดก่อนที่เราจะเริ่มทำการเทรดถัดไป มิฉะนั้น เราก็จะประสบกับความล้มเหลวอีกครั้ง

4. รู้เหตุผลในการกระทำเสมอ และอย่าทำเมื่อคุณอยู่ในสภาวะโลภหรือกลัว

นักลงทุนต้องรู้ว่าระหว่างความโลภและความกลัวนั้นมีพื้นที่หนึ่ง คือ “ปัญญา” เราจะต้องลงมือทำเฉพาะเมื่อเรามีปัญญาอยู่ในใจ

5. คอยสังเกตว่าคนอื่นในตลาดคิดอย่างไร

นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมักจะพยายามเข้าใจความคิดของผู้ค้าอื่น ๆ ในช่วงการซื้อขายเงินตราประเภทหนึ่ง ความเจ็บปวด (หรือความล้มเหลว) ของผู้ค้าอื่นอาจเป็นโอกาสสำหรับคุณ เนื่องจากการซื้อขายที่ประสบความสำเร็จนั้นคือการซื้อเงินตราที่ถูกจากมือของผู้ที่ล้มเหลวและขายในราคาแพงให้กับคนที่โลภและตามกระแส

6. อย่าประเมินค่าตนเองสูงเกินไป

ทุกครั้งที่คุณทำกำไรได้ติดต่อกัน ต้องไม่ลืมนึกถึงวลีนี้ และให้มองการทำกำไรติดต่อกันว่าเป็นเรื่องธรรมดา พร้อมด้วยจิตใจที่สบาย

7. ตลาดไม่ใช่สิ่งที่ต้องพิชิต แต่ควรมีปฏิสัมพันธ์อย่างเป็นมิตร

ทำงานร่วมกับตลาด แทนที่จะสู้กับมัน มองว่ามันคือเพื่อนที่จะทำให้คุณร่ำรวย ไม่ใช่ศัตรูที่จะแย่งชิง จากนี้ตลาดไม่ใช่ฝันร้ายของคุณ แต่เป็นผู้ที่เปิดเผยความฝันอันงดงาม

8. บางครั้งการสูญเสียก็อาจแปลว่าได้รับผลกำไร

นักลงทุนส่วนใหญ่ละเลยแนวคิดนี้ ถ้าคุณซื้อยูโรที่ 1.2800 แล้วมันตกลงไปที่ 1.2700 และคุณตัดขาดทุน นั่นคือการสูญเสีย 100 จุด แต่ถ้ายูโรก็ตกลงไปที่ 1.2600 และคุณไม่ "สูญเสียอีก" นั่นแปลว่าคุณทำกำไรได้ การมีศิลปะในการทำกำไรนั้นขึ้นอยู่กับการควบคุมการตัดขาดทุนอย่างชาญฉลาด