บทนำ

โพสต์นี้แก้ไขโดย FxTrading เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2015 ฉันเป็นนักเทรดที่รอบคอบ มองไม่เห็นตัวชี้วัด ดูแต่แผนภูมิเปล่าเอง วาดจุดแนวรับและแนวต้านด้วยตัวเอง (ในระดับวันทำงานได้ผล) เวลาที่ซื้อขายคือบ่าย 2 ถึงเที่ยงคืน ฉันอยู่มายังถึงตอนนี้! ตลาดแลกเปลี่ยนมีแต่ผู้ชนะและผู้แพ้ ไม่มีครู ไม่มีผู้เชี่ยวชาญ ไม่มีการแนะนำ (ต้องเชื่อว่าไม่มีใครเชื่อถือได้มากไปกว่าตัวเราเอง) การทำฟอเร็กซ์นั้นโดดเดี่ยวและน่าเบื่อมาก เมื่อทำไปนานๆ กำไรก็จะได้มากมาย

ประเด็นสำคัญ

พูดน้อยลงและตรงประเด็น ตลาดไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงตามแนวโน้มของ K-line แต่มันขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานและข่าวสาร นี่คือการขับเคลื่อนหลักของตลาด ซึ่งก็คือเหตุผลที่ทำให้ K-line นั้นเคลื่อนที่ ดังนั้น โปรดเก็บสูตรและตัวชี้วัดที่คุณเชื่อไว้ในกระเป๋า มันไม่มีประโยชน์! นักเทรดหลายคนถูกหลอกโดยตัวชี้วัดเหล่านี้

ความรู้พื้นฐาน

คุณต้องเข้าใจว่าคุณกำลังทำการซื้อขายในผลิตภัณฑ์อะไร คุณต้องเข้าใจพื้นฐานการซื้อขาย อัตราเลเวอเรจ มูลค่าของหนึ่งจุดคือเท่าไหร่ และคุณสามารถรับประกันการแพ้ได้เท่าไร เตรียมเงินเพื่อรองรับหากคุณเต็มพอร์ตในการซื้อขาย อย่าลงทุนโดยการเสี่ยงโชค นี่เป็นพฤติกรรมที่โง่เขลา คุณอาจจะชนะครั้งแรกหรือครั้งที่สอง แต่ครั้งที่สามอาจทำให้คุณเจ๊งได้ คุณควรที่จะทำตามตลาด อย่าอวดว่าตลาดจะไปในทางไหน แม้ว่าคุณจะถูกต้องในท้ายที่สุด ขออภัยตลาดนั้นถูกเสมอ!

การดำเนินการและการวิเคราะห์

การคาดการณ์ที่มั่นใจมากเกินไปอาจทำให้คุณต้องเจอกับความยากลำบากในช่วงผันผวน โดยเฉพาะความคุ้นเคยกับข้อมูลพื้นฐาน ซึ่งทำได้ง่ายมาก เพียงแค่ติดตามปฏิทินเศรษฐกิจทุกวัน อ่านข่าวสารที่อัปเดตทุกวัน หากคุณไม่ใช่นักเทรดมืออาชีพ คุณจำเป็นต้องเข้าใจข่าวสารพวกนี้ให้ดี หากไม่เข้าใจพื้นฐาน และเพียงแค่ดู K-line ก็จะโดนไล่ออก

การรอคอยและการตัดสินใจ

อย่าลองเดิมพันในผลิตภัณฑ์ที่ไม่เข้าใจ แม้ว่าทิศทางดีให้รอความเเม่นยำ และการลงทุนเพื่อป้องกันการตัดสินใจที่ไม่รอบคอบ บางครั้งออเดอร์ที่ไม่ได้คิดให้รอบคอบอาจนำมาซึ่งการขาดทุนที่คาดไม่ถึง หากคุณคิดถึงผลกำไร? ขออภัย ลองให้โชคเสียสองสามครั้งดูสิ… รอเวลาให้ข้อมูลออกมา การซื้อขายจริงๆ ง่ายๆ แค่จดจำหลักการเหล่านี้ ทำการประเมินจากข้อมูลพื้นฐาน และคำแนะนำในการตัดสินใจของคุณ รวมถึงระยะเวลาการถือครองและจุดตัดการค้า

ข้อสรุป

เมื่อพูดถึงจุดตัดการค้า คุณสามารถติดตามระดับแนวสนับสนุนและแนวต้านของ K-line ในระดับวัน สิ่งที่คุณต้องเข้าใจก็มีแค่เพียงเท่านี้