เมื่อวันพุธที่ 2 ตุลาคม นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น นายชิเกรุ อิชิบะ ได้ออกมาระบุว่า เศรษฐกิจของญี่ปุ่นยังไม่พร้อมที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง คำกล่าวนี้ส่งผลให้ค่าเงินเยนร่วงลงอย่างหนักถึงกว่า 2% ในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม ค่าเงินเยนยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐต่อเงินเยนแตะระดับสูงสุดที่ 147.4 เยน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา ลดลงประมาณ 0.5%

ขณะเดียวกัน ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น นายคาซึโอะ อูเอดะ ได้แสดงความเห็นที่ระมัดระวังเช่นเดียวกัน คำกล่าวเหล่านี้ทำให้ตลาดเชื่อว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ ส่งผลให้ค่าเงินเยนร่วงลงอย่างมาก นับเป็นการปรับตัวลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบสองปี ซึ่งมากกว่าครั้งที่ตลาดเกิดความผันผวนอย่างรุนแรงในช่วงต้นเดือนสิงหาคม

นอกจากนี้ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐก็เผชิญกับการขายออกเช่นกัน เนื่องจากข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐออกมาดีกว่าที่คาดไว้ ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นประมาณ 5 จุดพื้นฐาน แตะที่ 3.78%

เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ได้กล่าวย้ำเมื่อวันจันทร์ว่า พื้นฐานทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งลดความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างมาก

"คำกล่าวของพาวเวลล์แสดงให้เห็นว่า Fed มีจุดยืนที่เข้มงวดกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ในขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นแสดงท่าทีว่าไม่พิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งสร้างแรงกดดันอย่างมากต่อเงินเยน" Leah Traub ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอของ Lord Abbett กล่าว "ก่อนหน้านี้ตลาดมองภาพเชิงลบต่อเงินดอลลาร์มากเกินไป และตอนนี้ต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์กันใหม่"

แม้ว่าในช่วงต้นเดือนกันยายน ทัศนคติต่อการแข็งค่าของเงินเยนจะเริ่มลดลง แต่ผู้ค้าออปชันเงินเยนยังคงมีทัศนคติเชิงบวกต่อทิศทางของเงินเยนในช่วงหนึ่งสัปดาห์ หนึ่งเดือน และหนึ่งไตรมาสข้างหน้า

ในขณะเดียวกัน กองทุนเฮดจ์ฟันด์ยังคงดำเนินกลยุทธ์ขายเงินเยน แต่ก็ได้ลดการวางเดิมพันเชิงลบลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา วันพุธที่ผ่านมา ค่าเงินเยนลดลงมากกว่า 2% และก่อนหน้านั้นสองวัน ค่าเงินเยนก็ร่วงลงรวม 1% ซึ่งได้รับแรงหนุนจากคำพูดเชิงเข้มงวดของพาวเวลล์ที่ช่วยให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเทียบกับสกุลเงินกลุ่ม G10 ทั้งหมด

Jane Foley หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ค่าเงินของธนาคาร Rabobank กล่าวว่าความผันผวนของค่าเงินเยนในสัปดาห์นี้สะท้อนให้เห็นถึงสภาวะตึงเครียดในตลาด และเน้นย้ำถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น รวมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากคำกล่าวของนายกรัฐมนตรี "เนื่องจากตลาดมีความอ่อนไหวมาก ฉันคาดว่าจากนี้ไปนายกรัฐมนตรีจะลดการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่นเพื่อหลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดความผันผวนในตลาดเพิ่มเติม"

ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม เมื่อตลาดได้รับแรงกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น ผู้ค้าได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการต้องดึงเงินกลับจากการทำกำไรจากการเทรดค่าเงินเยน เมื่ออัตราดอกเบี้ยเงินเยนต่ำกว่าเงินสกุล G10 อื่นๆ ซึ่งทำให้ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว และความผันผวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ด้วยแนวโน้มที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นอาจเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลใหม่ อนาคตของเงินเยนจึงเริ่มหม่นหมองลง

Yuuya Yokota นักเทรดค่าเงินจากธนาคาร Mitsubishi UFJ Trust ในนิวยอร์ก กล่าวว่า "หากธนาคารกลางญี่ปุ่นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง เช่นเดียวกับวันที่ 5 สิงหาคม ตลาดจะเกิดความผันผวนอย่างมาก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรัฐบาลของอิชิบะอย่างชัดเจน ดังนั้นจึงคาดว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ และแนวโน้มการอ่อนค่าของเงินเยนอาจจะดำเนินต่อไปจนถึงสิ้นปี"