ราคาทองคำและการเติบโตในปีนี้

ราคาทองคำทำสถิติใหม่ที่ 2,758.37 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 33% ตั้งแต่ต้นปี ซึ่งมากกว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ รวมถึงดัชนี Nasdaq 100 ที่มีหุ้นเทคโนโลยีเป็นหลัก การลงทุนที่ร้อนแรงที่สุดในโลก' style='' class='right-float-img'>

จากข้อมูลของ YCharts ทองคำเพิ่มขึ้น 67% ตั้งแต่ตลาดหุ้นเริ่มกระแสกระทิงในเดือนตุลาคม 2022 ซึ่งดีกว่าดัชนี S&P 500 ที่เพิ่มขึ้นประมาณ 63%

การเติบโตของกองทุน SPDR Gold Shares และความต้องการทองคำแท่ง

กองทุน SPDR Gold Shares ซึ่งเป็นกองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุด มูลค่าการจัดการเพิ่มเป็น 78 พันล้านดอลลาร์ ในหกเดือนที่ผ่านมาเงินไหลเข้าประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ทองคำแท่งได้รับความสนใจมากเช่นกัน โดย Costco ขายทองคำแท่งหมดทุกครั้งที่เพิ่มในเว็บไซต์

ความต้องการทองคำจากธนาคารกลาง

ธนาคารกลางทั่วโลกเร่งซื้อทองคำ ในปีนี้มีการซื้อ 483 ตันในช่วงครึ่งปีแรก โดยมีประเทศที่เป็นผู้ซื้อหลักเช่น ตุรกี อินเดีย และจีน

การซื้อทองคำเพิ่มขึ้นสามเท่าตั้งแต่ปี 2022 เนื่องจากกังวลเรื่องหนี้สหรัฐฯ และความเสี่ยงทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ

ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์

ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เนื่องจากมีมูลค่าคงที่ เมื่อเกิดความตึงเครียดทางการเมือง เช่น สงครามในยูเครน และความตึงเครียดในตะวันออกกลาง นักลงทุนจึงแห่กันเข้ามาซื้อทองคำเพิ่มขึ้น

นโยบายทรัมป์และผลกระทบต่อทองคำ

“ทรัมป์เทรด” กลายเป็นที่นิยมเมื่อมีการคาดการณ์ว่าทรัมป์มีโอกาสชนะการเลือกตั้ง ด้วยความคาดหวังว่าการขึ้นประธานาธิบดีของทรัมป์จะส่งผลต่อหนี้สาธารณะและดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อทองคำ

อัตราดอกเบี้ยและทองคำ

การลดดอกเบี้ยเป็นปัจจัยส่งเสริมราคาทองคำ คาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในปีหน้า ซึ่งจะส่งผลดีต่อทองคำเช่นกัน

แม้ผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้น แต่ราคาทองคำยังคงเติบโต แสดงถึงความเชื่อมั่นในทิศทางดอกเบี้ยโลก ซึ่งธนาคารกลางทั่วโลกพร้อมผ่อนคลายทางการเงิน