ช่วงเช้าวันจันทร์ตลาดเอเชียเริ่มต้นด้วยการลดลงประมาณ 0.4% ทำให้ส่วนใหญ่ของการเพิ่มขึ้นในวันศุกร์ที่ผ่านมาถูกลบล้าง โดยนักลงทุนกำลังเตรียมตัวสำหรับสัปดาห์สำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก เนื่องจากสัปดาห์นี้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของเฟดซึ่งอาจจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก ส่งผลสำคัญต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตร

สถานการณ์ตลาดค่าเงิน

ค่าเงินที่ไม่ใช่ดอลลาร์ในช่วงเช้าวันนี้ส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยยูโร/ดอลลาร์เพิ่มขึ้น 0.4% อยู่ที่ 1.0876 ดอลลาร์ แต่มีแนวต้านที่ระดับ 1.0905 ดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์/เยนลดลง 0.6% อยู่ที่ 152.00 เยน ดัชนีดอลลาร์ลดลง 0.42% ที่ระดับ 103.88

การสำรวจความนิยมพบว่า ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต กมลา แฮร์ริส และผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน โดนัลด์ ทรัมป์ มีคะแนนใกล้เคียงกัน ทำให้ผลการเลือกตั้งอาจต้องรอการประกาศหลังการนับคะแนนสิ้นสุด

ผลกระทบจากนโยบายของทรัมป์และแฮร์ริส

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่านโยบายของทรัมป์ที่เกี่ยวกับการย้ายถิ่นฐาน การลดภาษี และการตั้งภาษีจะเพิ่มแรงกดดันให้กับอัตราเงินเฟ้อ อัตราผลตอบแทนพันธบัตร และค่าเงินดอลลาร์ ขณะที่แฮร์ริสได้รับการมองว่าเป็นผู้สมัครที่มีนโยบายต่อเนื่องและมั่นคงมากกว่า

ผลการสำรวจและความคิดเห็นจากนักวิเคราะห์

การลดลงของดอลลาร์เช้านี้อาจเกิดจากผลสำรวจที่พบว่า แฮร์ริสนำทรัมป์ในรัฐไอโอวาอย่างไม่คาดคิดด้วยคะแนนนำถึง 3 จุด ซึ่งส่วนใหญ่มาจากความนิยมในกลุ่มผู้หญิง

Chris Weston นักวิเคราะห์จากบริษัทโบรกเกอร์ Pepperstone กล่าวว่า “โดยทั่วไปแล้ว ผู้คนมองว่าการที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งจะเป็นผลบวกต่อดอลลาร์ และผลลัพธ์นี้อาจสะท้อนแล้วในตลาด แต่หากทรัมป์ชนะและควบคุมสภาคองเกรสได้อย่างสมบูรณ์อาจมีผลกระทบมากที่สุดเนื่องจากจะมีการขายพันธบัตรสหรัฐฯ จำนวนมากซึ่งจะส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น”

ความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งและการปรับลดดอกเบี้ย

ความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะเลือกปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามปกติ 25 จุด แทนที่จะปรับลดลง 50 จุด ความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลง 25 จุดเหลืออยู่ที่ 4.50%-4.75% อยู่ที่ 99% และความเป็นไปได้ที่จะลดดอกเบี้ยลงเช่นเดียวกันในเดือนธันวาคมอยู่ที่ 83%

ข้อมูลการจ้างงานและการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์

การจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนที่ผ่านมามีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 12,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 113,000 ตำแหน่ง เนื่องจากผลกระทบจากการหยุดงานของโบอิงและพายุเฮเลนและมิลตันในภาคตะวันออกเฉียงใต้ทำให้พนักงานหลายหมื่นคนตกงานชั่วคราว โดยมีคนประมาณ 512,000 รายที่รายงานว่าไม่สามารถทำงานได้เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย ซึ่งเป็นค่าสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1976

แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยจากนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์

Jan Hatzius นักเศรษฐศาสตร์จากโกลด์แมน แซคส์กล่าวว่า “เราคาดว่าในครึ่งแรกของปี 2024 เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลงอีกสี่ครั้ง ทำให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 3.25%-3.5% แต่ทั้งความเร็วและระดับอัตราดอกเบี้ยสุดท้ายยังคงไม่แน่นอน”

การประชุมธนาคารกลางอื่น ๆ ในสัปดาห์นี้

ธนาคารกลางอังกฤษจะประชุมในวันพฤหัสบดี คาดว่าจะปรับลดดอกเบี้ยลง 25 จุด ขณะที่ธนาคารกลางสวีเดนคาดว่าจะลดลง 50 จุด และธนาคารกลางนอร์เวย์คาดว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย

ตลาดในวันจันทร์และแนวโน้มเทคนิคของดัชนีดอลลาร์

เช้าวันจันทร์ ค่าเงินปอนด์เพิ่มขึ้น 0.36% อยู่ที่ 1.2963 ดอลลาร์ โดยฟื้นตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดในสัปดาห์ก่อนที่ 1.2841 ดอลลาร์ ส่วนในโตเกียวไม่มีการซื้อขายพันธบัตรเนื่องจากเป็นวันหยุด

ทางเทคนิค ดัชนีดอลลาร์แสดงการเคลื่อนไหวที่ทรงตัวระหว่างเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 5, 10 และ 21 วัน โดยมีสัญญาณแรงขับเคลื่อนที่ชะลอลง เส้น Bollinger Band ในรอบ 21 วันเริ่มหดตัว ระดับแนวต้านแรกที่จุดสูงสุดของสัปดาห์ก่อนที่ 104.63 และจุดสูงสุดของวันที่ 30 กรกฎาคมที่ 104.79