ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ออกมาน่าผิดหวัง แต่ตลาดยังคงมีมุมมองที่หลากหลายต่อการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด บางส่วนมองว่าการลดลงของข้อมูลการจ้างงานเป็นผลจากพายุเฮอริเคนและการหยุดงานของบริษัทโบอิ้งซึ่งส่งผลกระทบไม่มากนัก ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในระดับสูง

ดังนั้นในสัปดาห์นี้ควรติดตามการเลือกตั้งสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลต่อความต้องการน้ำมันดิบเบรนต์และทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นผ่านการสนับสนุนจากทั้งอุปสงค์และอุปทาน

เหตุการณ์สำคัญในสัปดาห์นี้

• การเลือกตั้งสหรัฐฯ
• ข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบของ EIA

OPEC+ ตัดสินใจเลื่อนการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน

OPEC+ ได้ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า ได้ตัดสินใจเลื่อนแผนการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันที่จะมีผลในเดือนธันวาคมออกไปหนึ่งเดือน เนื่องจากความต้องการที่อ่อนแอ โดยเฉพาะความต้องการจากประเทศจีน พร้อมกับปัจจัยการเพิ่มอุปทานจากประเทศอื่นนอก OPEC ที่กดดันตลาดน้ำมัน

OPEC+ ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก OPEC รัสเซีย และพันธมิตรอื่นๆ ได้วางแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนธันวาคมเป็น 180,000 บาร์เรลต่อวัน แต่หลังการประชุมรัฐมนตรีเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้มีการตัดสินใจเลื่อนแผนการนี้ออกไป

การตอบโต้ของอิหร่านต่อการโจมตีจากอิสราเอลอาจเพิ่มอาวุธระเบิด

ตามรายงานของวอลล์สตรีทเจอร์นัล แหล่งข่าวของอิหร่านและอาหรับกล่าวว่า การตอบโต้ของอิหร่านต่อการโจมตีจากอิสราเอลครั้งล่าสุดอาจมีการใช้อาวุธขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งอาจเกิดขึ้นภายหลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

บล็อกการเงินเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนตุลาคมลดลงอย่างมาก

รายงานจากสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ พบว่าข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนตุลาคมมีการเพิ่มขึ้นเพียง 12,000 ตำแหน่ง ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์อย่างมาก การลดลงนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการหยุดงานของโบอิ้งและพายุเฮอริเคน

การลดลงนี้ส่งผลให้ความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจสนับสนุนความต้องการน้ำมันดิบเบรนต์และทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น