ราคาทองคำล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยปัจจุบันซื้อขายที่ 2,683.62 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ใกล้เคียงกับระดับเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งราคาทองคำลดลง 0.8% ปิดที่ 2,684.37 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยตลอดทั้งสัปดาห์ราคาทองคำลดลง 1.85% ซึ่งถือเป็นการลดลงรายสัปดาห์ที่ใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 5 เดือน เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์และตลาดที่ปรับตัวต่อผลกระทบจากการเลือกตั้งของทรัมป์

การวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญ

Alex Ebkarian ซีโอโอของ Allegiance Gold กล่าวว่า “ตลอดเดือนที่ผ่านมา ความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งและความล่าช้าในการถ่ายโอนอำนาจยังคงเป็นจุดสนใจของตลาด ความเสี่ยงสินทรัพย์ต่างๆ เริ่มได้รับประโยชน์มากขึ้น ซึ่งเป็นผลให้เงินทุนไหลออกจากตลาดโลหะและเข้าสู่สินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ”

เฟดได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังคงแสดงท่าทีระมัดระวังต่อการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในอนาคต ขณะที่ผลการเลือกตั้งของทรัมป์ได้เพิ่มความกังวลว่าเฟดอาจชะลอการลดอัตราดอกเบี้ย

ข้อมูลเศรษฐกิจและตลาด

• ดัชนีดอลลาร์เมื่อวันศุกร์เพิ่มขึ้น 0.59% ปิดที่ 104.95 และเพิ่มขึ้น 0.61% ตลอดสัปดาห์
• ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน
• ข้อมูลที่น่าสนใจในสัปดาห์นี้: ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ

ความคิดเห็นจากนักวิเคราะห์

Marc Chandler หัวหน้ากลยุทธ์ตลาดจาก Bannockburn Global Forex ระบุว่า ตลาดกำลังพยายามประเมินว่ามาตรการของทรัมป์จะส่งผลอย่างไรต่อเศรษฐกิจและนโยบายของเฟดในอนาคต

Moody’s เตือนว่าการชนะการเลือกตั้งของทรัมป์อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อสถานะทางการเงินของสหรัฐฯ เนื่องจากนโยบายลดภาษีและเพิ่มการใช้จ่ายของเขา

แนวโน้มราคาทองคำ

แม้ราคาทองคำจะถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์และตลาดที่หันเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง แต่สถานการณ์ความไม่แน่นอนในเชิงนโยบายและภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความขัดแย้งในยูเครนและตะวันออกกลาง ยังคงเป็นปัจจัยหนุนในระยะกลางถึงยาว

การวิเคราะห์จากนักวิเคราะห์ Kitco News ชี้ให้เห็นว่า มีเพียง 21% ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นในสัปดาห์หน้า ในขณะที่ 64% คาดว่าราคาจะลดลง และ 14% คาดว่าราคาจะทรงตัว