ดัชนีหุ้นล่วงหน้าของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในช่วงค่ำวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนยังคงติดตามข้อมูลเงินเฟ้อที่จะประกาศในเร็ว ๆ นี้ และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อหาสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดวอลล์สตรีท และดูว่าตลาดสามารถสานต่อแนวโน้มขาขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้หรือไม่

สรุปตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ในช่วงครึ่งหลังของสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2024 ซึ่งช่วยลดความไม่แน่นอนที่สำคัญของตลาด นอกจากนี้ การลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในสินทรัพย์เสี่ยงอีกด้วย

ดัชนีหุ้นล่วงหน้าล่าสุด

• ดัชนี S&P 500 ล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 0.2% สู่ระดับ 6,037.25 จุด
• ดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 0.4% สู่ระดับ 21,306.0 จุด
• ดัชนี Dow Jones ล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 0.1% สู่ระดับ 44,186.0 จุด

อย่างไรก็ตาม คาดว่าปริมาณการซื้อขายในวันจันทร์จะยังคงจำกัด เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดวันทหารผ่านศึกในสหรัฐฯ

จับตาข้อมูล CPI และถ้อยแถลงของเฟด

ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะจับตาข้อมูลเงินเฟ้อ CPI ของเดือนตุลาคม เพื่อหาสัญญาณเพิ่มเติมว่าอัตราเงินเฟ้อได้ผ่อนคลายลงหรือไม่ โดยรายงานนี้จะออกมาหลังจากที่เฟดประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% และย้ำว่าแนวทางการผ่อนคลายเพิ่มเติมในอนาคตจะขึ้นอยู่กับทิศทางของเงินเฟ้อ

แม้ว่าเงินเฟ้อในสหรัฐฯ จะลดลงในช่วงต้นปี แต่แนวโน้มดังกล่าวกลับเริ่มชะลอตัวในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจและตลาดแรงงานที่ยังคงแข็งแกร่ง

ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทฟื้นตัวจากชัยชนะของทรัมป์

ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังคงสร้างสถิติใหม่หลังจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง โดยเขาสัญญาว่าจะลดภาษีของบริษัทและดำเนินนโยบายขยายเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งจะส่งผลในเชิงบวกต่อรายได้ของบริษัทต่าง ๆ

นอกจากนี้ พรรครีพับลิกันยังคงครองเสียงข้างมากในทั้งสองสภา ซึ่งช่วยให้ทรัมป์สามารถผลักดันการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่สำคัญได้อย่างราบรื่น

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนี S&P 500 ปรับขึ้น 0.4% ปิดที่ 5,995.54 จุด; ดัชนี Dow Jones ปรับขึ้น 0.6% ปิดที่ 43,988.99 จุด; และดัชนี Nasdaq Composite ปรับขึ้น 0.1% ปิดที่ 19,286.78 จุด

แนวโน้มและข้อมูลสำคัญที่ต้องจับตา

นักลงทุนคาดหวังว่า CPI จะเป็นตัวบ่งชี้สำคัญต่อทิศทางดอกเบี้ยในอนาคต รวมถึงการให้ข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่เฟดในสัปดาห์นี้ ตามข้อมูลจาก CME FedWatch เครื่องมือดังกล่าวชี้ว่ามีโอกาส 65.9% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ในเดือนธันวาคม และโอกาส 34.1% ที่อัตราดอกเบี้ยจะคงที่