InfoQuest - ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างมากกว่า 70 ดอลลาร์ หลุดระดับ 2,620 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนเปลี่ยนการลงทุนจากสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ ไปสู่สินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น เพื่อสะท้อนถึงชัยชนะในการเลือกตั้งของนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ณ เวลา 01:14 น. ตามเวลาในประเทศไทย สัญญาทองคำในตลาด COMEX (Commodity Exchange) ที่กำหนดส่งมอบในเดือนธันวาคม ลดลง 75.70 ดอลลาร์ หรือ 2.81% ปิดที่ 2,619.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์

เหตุผลที่นักลงทุนเทขายทองคำ

นักลงทุนเลือกที่จะขายทองคำซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากที่นายทรัมป์กล่าวว่าเขาจะยุติสงครามในภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะสงครามยูเครน หากเขาชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ราคาทองคำยังได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับมาตรการของนายทรัมป์ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยกระตุ้นเงินเฟ้อและนำไปสู่การเลื่อนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)

นอกจากนี้ การแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์หลังจากชัยชนะของนายทรัมป์ ยังสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ ทำให้ทองคำมีความน่าสนใจลดลง และมีต้นทุนที่สูงขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่นๆ

ความสนใจของนักลงทุนต่อข้อมูลเงินเฟ้อ

นักลงทุนกำลังจับตาดูข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ รวมถึงแถลงการณ์ของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ มีกำหนดเผยแพร่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งวัดการใช้จ่ายของผู้บริโภคในเดือนตุลาคมในวันพุธนี้

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI รวมทุกหมวดหมู่ที่รวมถึงอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบรายปีในเดือนตุลาคม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดือนกันยายน

เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ดัชนี CPI คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนตุลาคม ซึ่งเท่ากับเดือนกันยายน

สำหรับดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.3% เมื่อเทียบรายปี และเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือนในเดือนตุลาคม ซึ่งยังคงเท่ากับเดือนกันยายน

แถลงการณ์สำคัญจากนายเจอโรม พาวเวลล์

นักลงทุนกำลังรอแถลงการณ์ของนายเจอโรม พาวเวลล์ ซึ่งมีกำหนดพูดถึงแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน เวลา 15:00 น. ตามเวลาสหรัฐฯ หรือเวลา 03:00 น. ตามเวลาในประเทศไทยในวันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน ที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส

ในการแถลงข่าวหลังการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายพาวเวลล์แสดงความพอใจต่อสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และยืนยันว่าเขาจะไม่ลาออก แม้จะเผชิญแรงกดดันจากนายทรัมป์

การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

ธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาแอตแลนตาระบุว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุด แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในไตรมาสที่สี่ของปี 2024 จะเติบโต 2.5%

เศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโต 1.4% ในไตรมาสแรก 3.0% ในไตรมาสที่สอง และ 2.8% ในไตรมาสที่สาม