ในวันจันทร์ที่ 11 ตามเวลาสหรัฐฯ ดัชนีหุ้นหลักทั้งสามของ Wall Street ทำสถิติสูงสุดใหม่ในการปิดตลาดอีกครั้ง โดย Dow Jones เพิ่มขึ้น 0.69% Nasdaq เพิ่มขึ้น 0.06% และ S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.10%

หุ้น Tesla เพิ่มขึ้นเกือบ 9% ซึ่งนับเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในห้าวันในรอบสี่ปี โดยมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นถึง 92.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6.672 แสนล้านบาทในคืนเดียว ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมของ Tesla อยู่ที่ 1.1235 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงสุดเป็นอันดับ 7 ของหุ้นในตลาดสหรัฐฯ

ตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน หุ้น Tesla เพิ่มขึ้นถึง 44.25% ภายในห้าวันทำการ สัปดาห์ที่ผ่านมาหุ้น Tesla พุ่งขึ้น 29% โดยมูลค่าตลาดทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ Forbes รายงานว่าทรัพย์สินของ Elon Musk เพิ่มขึ้น 16.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในวันที่ 11 ทำให้ทรัพย์สินรวมของเขาอยู่ที่ 320.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังคงเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลก

ความสัมพันธ์ระหว่าง Musk และทรัมป์

ยังไม่ชัดเจนว่า Elon Musk ซึ่งใช้เงินอย่างน้อย 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในการสนับสนุนการรณรงค์เลือกตั้งของทรัมป์ จะได้รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในรัฐบาลของทรัมป์สมัยที่สองหรือไม่ หรือจะมีบทบาทต่อการตัดสินใจเชิงนโยบายในวงในของทรัมป์หรือเปล่า

มีการคาดการณ์ว่า Musk อาจได้รับสัญญาฉบับใหม่มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐจากรัฐบาล ซึ่งไม่รวมถึงสัญญามูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์สหรัฐที่บริษัท SpaceX ของเขาได้รับแล้ว นอกจากนี้ คดีและการสืบสวนของรัฐบาลกลาง 19 คดีที่เกี่ยวข้องกับบริษัทของเขา อาจได้รับการยกเลิกบางส่วนหรือทั้งหมด

ผลกระทบต่อตลาดหุ้น

นักวิเคราะห์จาก Bank of America ระบุในรายงานว่า "เป็นเรื่องยากที่จะตัดสินว่าความสัมพันธ์ระหว่าง Musk และทรัมป์จะส่งผลดีต่อ Tesla อย่างไร แต่ควรจับตาดูอย่างใกล้ชิด" พวกเขาปรับเป้าหมายราคาหุ้น Tesla จาก 265 ดอลลาร์สหรัฐเป็น 350 ดอลลาร์สหรัฐ

ในขณะที่ Musk ได้กำไรอย่างมหาศาล กองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ขายชอร์ต Tesla กลับขาดทุนกว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามข้อมูลจาก Bloomberg กองทุนที่ถือสถานะชอร์ต Tesla ในช่วงวันเลือกตั้งถึงวันศุกร์ที่ผ่านมา ประสบความเสียหายอย่างน้อย 5.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

Per Lekander ซีอีโอของ Clean Energy Transition กล่าวว่าก่อนการเลือกตั้งเขาได้ทำการชอร์ต Tesla เล็กน้อย แต่เขาสามารถลดสถานะดังกล่าวลงได้ "พอสมควร" ส่งผลให้ความเสียหายของเขา "ค่อนข้างน้อย"

Lekander เชื่อว่าผลกระทบของทรัมป์คิดเป็นประมาณหนึ่งในสามของราคาหุ้น Tesla ในปัจจุบัน และหุ้น Tesla ในตอนนี้เป็นเหมือนการ "เดิมพัน" ว่าทรัมป์จะช่วยเหลือ Musk ได้มากน้อยเพียงใด

ทิศทางพลังงานสะอาดในยุคทรัมป์

หลังข่าวทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง หุ้นพลังงานสะอาด เช่น พลังงานลมและแสงอาทิตย์ เริ่มลดลง เนื่องจากมีความกังวลว่าทรัมป์จะลดแรงจูงใจในพลังงานสะอาดตามที่เคยให้สัญญาไว้

ด้านหนึ่ง ทรัมป์ชัดเจนว่าสนับสนุนพลังงานแบบดั้งเดิม เช่น น้ำมันและก๊าซ นักวิเคราะห์มองว่าภาคอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซจะได้รับประโยชน์ในช่วงสี่ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม เขามีท่าทีซับซ้อนต่อพลังงานหมุนเวียน และเคยให้สัญญาว่าจะยกเลิกกฎหมายส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว

Lekander คาดการณ์ว่าแม้แต่ Tesla ก็อาจได้รับผลกระทบจากนโยบายของทรัมป์ในอีกหนึ่งปีข้างหน้า โดยเขาเชื่อว่าชัยชนะของทรัมป์ส่งผลลบต่อ Tesla ในฐานะบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า