ราคาทองคำในวันพุธปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากแรงกดดันของข้อมูลการจ้างงาน ADP ของสหรัฐฯ ในเดือนกันยายน ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ ช่วยให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐปิดบวกสามวันติดต่อกันและแตะระดับสูงสุดในรอบสามสัปดาห์ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน ส่งผลให้ราคาทองคำในระหว่างวันร่วงลงไปที่ 2,641.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดในตะวันออกกลางยังช่วยสนับสนุนแรงซื้อทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง ทำให้ราคาทองคำปิดที่ 2,658.55 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง 0.18% ตลาดยังคงให้ความสนใจข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางต่อไป

เช้าวันพฤหัสบดี (3 ตุลาคม) ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ 2,660.92 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำในวันพุธปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากแรงกดดันของข้อมูลการจ้างงาน ADP ที่แข็งแกร่งเกินคาด ทำให้ดัชนีดอลลาร์ปิดบวกเป็นวันที่สามติดต่อกันและแตะระดับสูงสุดในรอบสามสัปดาห์ ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลง แต่สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงสนับสนุนแรงซื้อทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง

หลังจากที่อิหร่านโจมตีอิสราเอลด้วยขีปนาวุธเมื่อวันอังคาร ราคาทองคำพุ่งขึ้นกว่า 1% แต่การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นกันทำให้ราคาทองคำที่ซื้อขายในดอลลาร์สหรัฐแพงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น ๆ ซึ่งเป็นปัจจัยที่จำกัดการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ

Bob Haberkorn นักกลยุทธ์ตลาดอาวุโสจาก RJO Futures กล่าวว่า การแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้เกิดแรงขายทองคำออกมา แต่ด้วยปัจจัยความไม่แน่นอนมากมายใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า จึงไม่ควรรีบขายทองคำ หากอิสราเอลโจมตีอิหร่านจริง ราคาทองคำมีโอกาสทะลุ 2,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้

ในปีนี้ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมากกว่า 28% และยังคงใกล้เคียงกับระดับสูงสุดที่ 2,685.42 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยความกังวลเกี่ยวกับการยกระดับความขัดแย้งในตะวันออกกลางยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนราคาทองคำ

Daniel Hynes นักกลยุทธ์อาวุโสจาก ANZ กล่าวว่า ในระยะยาว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักของราคาทองคำ

ข้อมูลการจ้างงาน ADP ระบุว่า มีการจ้างงานในภาคเอกชนของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 143,000 ตำแหน่งในเดือนกันยายน นักลงทุนกำลังรอข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm Payrolls) ที่จะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ รวมถึงติดตามถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ เพื่อหาข้อมูลบ่งชี้เกี่ยวกับนโยบายการเงินในอนาคต

ในวันนี้ ตลาดยังคงรอคอยข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ดัชนี ISM ภาคบริการในเดือนกันยายน และข้อมูลคำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ซึ่งนักลงทุนควรติดตามอย่างใกล้ชิด รวมถึงติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์และการคาดการณ์เกี่ยวกับข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตร