เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาหลังจากสหรัฐอเมริกาเปิดเผยรายงานเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาดการณ์เล็กน้อย อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน โดนัลด์ ทรัมป์ และพันธมิตรของเขาได้ใช้โอกาสนี้โจมตีธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) โดยกล่าวว่า การลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนที่แล้วมากเกินไป!

ทรัมป์ได้กล่าวในงานสโมสรเศรษฐกิจดีทรอยต์ว่า “ความจริงคือ ธนาคารกลางสหรัฐลดอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป”

“การลดดอกเบี้ยมากเกินไป ทุกคนรู้ว่ามันเป็นกลยุทธ์ทางการเมืองที่พวกเขาพยายามทำก่อนการเลือกตั้ง” เขาเสริม

นี่ถือเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ประธานธนาคารกลางสหรัฐ เจอโรม พาวเวลล์ อย่างตรงไปตรงมาที่สุดในรอบหลายเดือนของทรัมป์ ก่อนหน้านี้เขามักจะเน้นไปที่การตำหนิสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอย แทนที่จะวิจารณ์ธนาคารกลางโดยตรง

“นี่เป็นการตัดสินใจทางการเมืองทั้งหมด เงินเฟ้อเริ่มสูงขึ้นแล้ว” ทรัมป์กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี พร้อมกับตำหนิอัตราดอกเบี้ยที่สูงว่า “มันกำลังทำลายความฝันแบบอเมริกันของคนหนุ่มสาว”

ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทรัมป์ได้กล่าวว่าเขาต้องการมี “สิทธิ์ในการออกเสียง” ในการกำหนดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งทำให้เพิ่มความเป็นไปได้ว่าหากเขาชนะการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนนี้ เขาอาจพยายามลดความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐ

คณะกรรมการการดำเนินการทางการเมืองขั้นสูง (Super PAC) ที่สนับสนุนทรัมป์ “Make America Great Again, Inc.” ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีด้วยว่า ข้อมูลเงินเฟ้อในวันพฤหัสบดีอาจเป็น “ฝันร้ายที่เลวร้ายที่สุดของธนาคารกลางสหรัฐ”

Super PAC เป็นองค์กรการเมืองของสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นในปี 2010 ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อระดมทุนและใช้จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อส่งผลต่อผลการเลือกตั้ง พูดง่าย ๆ ก็คือ เป็นช่องทางหลักที่ผู้บริจาครายใหญ่สามารถมอบเงินทุนให้แก่ผู้สมัครชิงตำแหน่งได้

เมื่อเปรียบเทียบกับคณะกรรมการการดำเนินการทางการเมืองแบบดั้งเดิม Super PAC สามารถรับเงินบริจาคได้ไม่จำกัดจำนวน เพียงแค่ไม่สามารถติดต่อโดยตรงกับผู้สมัครหรือทีมเลือกตั้งของพวกเขาได้ ดังนั้น Super PAC จึงถูกใช้เพื่อสนับสนุนการโฆษณา การรณรงค์ และการกระทำทางการเมืองอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนหรือต่อต้านผู้สมัครหรือโครงการนโยบายเฉพาะ

โดยรวมแล้ว ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งชะลอตัวลงเล็กน้อยจากการเพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ตาม การเติบโต 0.2% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (ซึ่งสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 0.1%) กลับเป็นประเด็นที่ถูกเน้นมากกว่า

ในขณะเดียวกัน เมื่อไม่รวมราคาที่ผันผวนของอาหารและพลังงาน ดัชนี CPI หลักในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนสิงหาคม และไม่ชะลอตัวลงเป็น 0.2% ส่วนการเพิ่มขึ้นประจำปีอยู่ที่ 3.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนมิถุนายน ตลาดคาดการณ์ไว้เดิมว่าจะอยู่ที่ 3.2%

Lael Brainard ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งทำเนียบขาว (NEC) ได้ออกแถลงการณ์ว่า “อัตราเงินเฟ้อได้ลดลงเหลือ 2.4% ซึ่งเท่ากับระดับก่อนเกิดการระบาด”

“เรากำลังมีความก้าวหน้า” เธอเสริม

ธนาคารกลางสหรัฐจะจัดประชุมครั้งต่อไปหลังวันเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน ข้อมูลเงินเฟ้อในวันพฤหัสบดีดูเหมือนจะเป็นการเสริมแรงสำหรับสมาชิกที่มีท่าทีแข็งกร้าวในธนาคารกลาง ซึ่งแนะนำให้ธนาคารกลางดำเนินการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปมากขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

Nick Timiraos นักข่าวชื่อดังซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “กระบอกเสียงของธนาคารกลางสหรัฐ” ได้รายงานในบทความล่าสุดว่า Raphael Bostic ประธานธนาคารกลางแอตแลนตาและหนึ่งในคณะกรรมการลงคะแนนของคณะกรรมการตลาดเปิดในปี 2024 เปิดเผยว่า เขาเปิดกว้างสำหรับการไม่ลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพฤศจิกายนนี้ หรือการลดเพียง 25 จุดฐาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแนวโน้มทางเศรษฐกิจในอนาคต