ผลประกอบการในไตรมาส 3 ของตลาดหุ้นสหรัฐอาจเผชิญความท้าทาย แม้หุ้นขึ้นแรงตั้งแต่ต้นปี
ตามข้อมูลจาก Bloomberg Intelligence นักกลยุทธ์คาดการณ์ว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 จะรายงานผลประกอบการที่อ่อนแอที่สุดในรอบ 4 ไตรมาสที่ผ่านมา โดยกำไรในไตรมาสที่ 3 จะเติบโตเพียง 4.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
แม้ว่าคาดการณ์กำไรจะลดลง แต่ดัชนี S&P 500 ก็ทำสถิติสูงสุดใหม่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 22% นับตั้งแต่ต้นปี นักลงทุนที่มองหุ้นบวกอาจมีเหตุผล เพราะหากคาดการณ์ที่ปรับลดลงไปพิสูจน์ว่ามองในแง่ร้ายเกินไป ก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดการเซอร์ไพรส์ทางบวก คล้ายกับไตรมาสแรกที่คาดการณ์ว่าจะเติบโต 3.8% แต่ผลลัพธ์จริงกลับเพิ่มขึ้นถึง 7.9%
Ross Mayfield นักกลยุทธ์การลงทุนจาก Baird กล่าวว่า “การปรับลดคาดการณ์กำไรต่อหุ้นของนักวิเคราะห์มากกว่าปกติ อาจเพิ่มโอกาสในการเกิดผลลัพธ์ที่ดีกว่าคาด ซึ่งอาจทำให้ตลาดหุ้นทำผลงานได้ดีกว่าเดิม”
ประเด็นสำคัญ 5 ข้อที่นักลงทุนควรติดตามในฤดูกาลประกาศผลประกอบการไตรมาส 3:
1. การชะลอตัวของกำไรยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี
การเติบโตของกำไรส่วนใหญ่ในดัชนี S&P 500 ยังคงมาจากบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ บริษัทเทคโนโลยีทั้ง 7 แห่ง ได้แก่ Apple, Microsoft, Alphabet, Amazon, Nvidia, Meta และ Tesla คาดว่ากำไรในไตรมาสที่ 3 จะเติบโต 18% อย่างไรก็ตาม การเติบโตของกำไรชะลอตัวลงจากมากกว่า 30% ในปี 2023
นอกจากนี้ บริษัทในดัชนี S&P 500 ที่ไม่ใช่ยักษ์ใหญ่ทั้ง 7 คาดว่าจะมีกำไรเติบโตเพียง 1.8% ในไตรมาสที่ 3 นี้ ซึ่งนับเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกันของการเติบโต แม้จะเล็กน้อยก็ตาม
2. สวรรค์ของนักเลือกหุ้น
นักลงทุนอาจเห็นความผันผวนในหุ้นรายตัวที่ไม่สะท้อนถึงดัชนีหลัก ขณะที่ตลาดออปชั่นกำลังกำหนดราคาความผันผวนในหุ้นรายตัวสูงสุดตั้งแต่ปี 2021 โดยนักกลยุทธ์หุ้นจาก Bank of America กล่าวว่า ดัชนี S&P 500 ใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ เทคโนโลยี บริการสื่อสาร และการดูแลสุขภาพ คาดว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้นมากกว่า 10%
3. อัตรากำไร
อัตรากำไรเป็นตัวชี้วัดสำคัญของการทำกำไร โดยคาดว่าอัตรากำไรในไตรมาสที่ 3 จะลดลงเล็กน้อยเหลือ 12.9% แต่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 12.8% อุตสาหกรรมพลังงานและอสังหาริมทรัพย์คาดว่าจะมีอัตรากำไรต่ำที่สุด แต่โดยรวมคาดว่าอัตรากำไรจะฟื้นตัวในไตรมาสต่อ ๆ ไป
4. ตลาดยุโรปผันผวน
ในยุโรป ฤดูกาลประกาศผลประกอบการอาจเป็นจุดเปลี่ยนของดัชนี Stoxx 600 ท่ามกลางเศรษฐกิจยูโรโซนที่ชะลอตัว ซึ่งนักวิเคราะห์ได้ปรับลดคาดการณ์กำไรของหุ้นในดัชนีนี้ลง การเติบโตของกำไรในปี 2025 ยังคงคาดว่าจะสูง และบริษัทที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง เช่น H&M และ Volkswagen ได้ออกคำเตือนกำไรในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
5. โฟกัสการเลือกตั้ง
ใกล้การเลือกตั้งสหรัฐฯ นักลงทุนจะจับตาคำแถลงจากผู้บริหารบริษัทเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจและนโยบายการค้า ข้อมูลจาก Bank of America แสดงให้เห็นว่ามีการกล่าวถึง “การเลือกตั้ง” เพิ่มขึ้น 62% เมื่อเทียบกับ 4 ปีก่อน
รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับกิจกรรม!
สมัครสมาชิกวันนี้
เกี่ยวกับเรา
ติดต่อเรารา
เรื่องที่น่ารู้เรา
Bainimarama คือเว็บไซต์ที่มุ่งมั่นในการแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับตลาด Forex และ Cryptocurrency เช่น Bitcoin, Ethereum, XRP, Litecoin และ Dogecoin เป็นต้น รวมถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่อัปเดตอย่างรวดเร็วทันใจทุกการเคลื่อนไหวในตลาดเหล่านี้
เราไม่สนับสนุนการชักชวนการเทรดหรือการระดมทุนในทุกกรณี เราเป็นเพียงสื่อกลางที่มุ่งมั่นในการแบ่งปันความรู้เท่านั้น
**การซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินทุกชนิดมีความเสี่ยง นักลงทุนหรือนักเก็งกำไรควรทำความเข้าใจก่อนที่จะเข้าซื้อขายกับสินทรัพย์นั้นๆ**
ข้อมูลลิขสิทธิ์และนโยบายการใช้งานของ Bainimarama
Copyright 2024 Bainimarama © สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามนำไปทำซ้ำ หรือคัดลอกข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
เรามีนโยบายในการนำเสนอข้อมูลอย่างโปร่งใสและเป็นกลาง ทุกข้อมูลที่นำเสนอไม่มีเจตนาในการชักชวน ชี้นำ หรือสอนการลง ทุนแต่อย่างใด