1. ทรัมป์ประกาศชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี

โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยระบุว่าผลการเลือกตั้งนี้แสดงถึง "อำนาจที่ได้รับการมอบหมายอย่างแข็งแกร่ง" แม้ว่าสื่อกระแสหลักและหน่วยงานข่าวส่วนใหญ่ยังไม่ได้ประกาศผู้ชนะอย่างเป็นทางการ แต่ผลการเลือกตั้งชี้ว่าทรัมป์เอาชนะกมลา แฮร์ริสจากพรรคเดโมแครตได้อย่างชัดเจน

ทรัมป์มีผลการเลือกตั้งที่ยอดเยี่ยมในรัฐสมรภูมิสำคัญ ได้แก่ เพนซิลเวเนีย, จอร์เจีย และนอร์ทแคโรไลนา ขณะที่รายงานจาก Associated Press ระบุว่าพรรครีพับลิกันได้รับเสียงข้างมากในวุฒิสภา และคาดว่าจะควบคุมสภาผู้แทนราษฎรได้เช่นกัน ซึ่งหากเป็นจริง จะทำให้ทรัมป์สามารถผลักดันการปฏิรูปครั้งใหญ่ได้ง่ายขึ้น

2. ดัชนีหุ้นล่วงหน้าของสหรัฐพุ่งสูง

ตลาดหุ้นล่วงหน้าของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดัชนี Dow Jones Futures เพิ่มขึ้นกว่า 1,000 จุด ขณะที่ S&P 500 เพิ่มขึ้น 2% นักลงทุนมองว่าพรรครีพับลิกันจะสามารถครองอำนาจทั้งในทำเนียบขาวและสภาคองเกรส

ตลาดยังจับตาผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะประกาศการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดี

3. "การเทรดทรัมป์" กลับมาสู่กระแสหลัก

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นในวันพุธ โดยดัชนีดอลลาร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% ซึ่งอาจเป็นการปรับตัวที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 4 ปี ในขณะเดียวกัน ค่าเงินเปโซของเม็กซิโกอ่อนค่าลงอย่างหนัก เนื่องจากเม็กซิโกเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากนโยบายภาษีของทรัมป์

ราคาบิทคอยน์แตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 75,060 ดอลลาร์ ทรัมป์ซึ่งแสดงการสนับสนุนต่อวงการคริปโตเคอเรนซีช่วยกระตุ้นการลงทุนในตลาดนี้

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

ING รายงานว่าตลาดกำลังตอบสนองต่อการคาดการณ์ว่าทรัมป์และพรรครีพับลิกันจะได้รับชัยชนะครั้งใหญ่ในสภาคองเกรส

4. การประชุมเฟดเริ่มต้นวันนี้

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มต้นการประชุมสองวันในวันพุธ โดยคาดการณ์ว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% แม้ว่าจะมีการคาดการณ์ถึงการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในเดือนธันวาคม แต่การเลือกตั้งอาจส่งผลให้คาดการณ์ในปี 2024 ลดลง

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่เกี่ยวข้องกับอัตราดอกเบี้ยแสดงให้เห็นว่า เฟดอาจหยุดการลดดอกเบี้ยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2025 โดยคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในช่วง 3.75%-4%

Vital Knowledge วิเคราะห์ว่านโยบายของทรัมป์ที่อาจขยายการใช้จ่ายทางการเงินและจำกัดแรงงานผู้อพยพ จะทำให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ยได้ช้าลง

5. ราคาน้ำมันลดลงกว่า 2%

ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง โดยราคาน้ำมันดิบสหรัฐลดลงใกล้ระดับ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากรายงานจาก American Petroleum Institute (API) ระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบในสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.13 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

การแข็งค่าของดอลลาร์ยังทำให้น้ำมันที่ซื้อขายในราคาดอลลาร์มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น ส่งผลให้ความต้องการลดลง