เมื่อวันศุกร์ที่ 29 กันยายน ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดโดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นจีนและการประเมินมูลค่าที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้หุ้น LexinFintech (LX.US) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีดิจิทัลชั้นนำของจีนในกลุ่มผู้บริโภคใหม่ พุ่งขึ้นถึง 13.81% ปิดที่ราคา 2.72 ดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 25.85 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ราคาหุ้นของ LexinFintech เปิดตลาดด้วยการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจนกระทั่งปิดตลาด โดยราคาสูงสุดในช่วงท้ายของการซื้อขายแตะ 2.94 ดอลลาร์สหรัฐฯ การปิดที่ราคา 2.72 ดอลลาร์สหรัฐฯ นับเป็นจุดสูงสุดใหม่ตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2023 ข้อมูลหลังการปิดตลาดยังแสดงว่าราคาหุ้นเพิ่มขึ้นอีก 0.77%
นี่เป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ห้าของ LexinFintech โดยในช่วงเวลานี้ราคาหุ้นได้พุ่งขึ้น 62.87% มูลค่าการซื้อขายในวันนี้ที่ 25.85 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นมูลค่าการซื้อขายสูงสุดในรอบสามปีครึ่ง ซึ่งมูลค่าการซื้อขายสูงสุดก่อนหน้านี้คือ 26.88 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2021
ในส่วนของตลาด นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้แสดงความคิดเห็นในเชิงเข้มงวดเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ย ซึ่งส่งผลให้โอกาสในการลดดอกเบี้ย 50 จุดพื้นฐานในการประชุมเดือนพฤศจิกายนลดลงเหลือ 36.2% จากความคาดหวังที่สูงก่อนหน้านี้ ด้วยปัจจัยนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จึงปิดบวก โดยดัชนี Dow Jones เพิ่มขึ้น 0.04%, S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.42% และ Nasdaq เพิ่มขึ้น 0.38%
หุ้นจีนส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น โดยดัชนี Nasdaq Golden Dragon China ปิดบวกที่ 0.45% ปิดที่ระดับ 7268.41 จุด ใกล้เคียงกับจุดปิดเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2023 ที่ 7274.59 จุด หุ้นที่โดดเด่นได้แก่ Jinko Solar เพิ่มขึ้นกว่า 15%, Dingdong Maicai เพิ่มขึ้นประมาณ 12%, TAL Education เพิ่มขึ้นกว่า 9% และ RLX Technology เพิ่มขึ้นกว่า 7%
การเพิ่มขึ้นของราคาหุ้น LexinFintech ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากความคาดหวังเชิงบวกต่อผลประกอบการครึ่งปีหลังและการฟื้นตัวของมูลค่าหุ้น
ในการประชุมแถลงผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของปี 2024 ผู้บริหารของ LexinFintech ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า ความเสี่ยงจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง และกำไรจะเพิ่มขึ้นตามมา ซึ่งน่าจะส่งผลให้การจ่ายเงินปันผลของบริษัทเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ในรายงานผลประกอบการครึ่งปี LexinFintech ยังคงนโยบายการจ่ายเงินปันผลปีละสองครั้ง โดยจ่ายเงินปันผลครั้งนี้เป็นจำนวน 0.072 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อ ADS หรือประมาณ 20% ของกำไรสุทธิครึ่งแรกของปี 2024 โดยคิดจากราคาหุ้นก่อนการประกาศผลประกอบการที่ 1.77 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม อัตราเงินปันผลของบริษัทอยู่ที่ 8.1% ซึ่งสูงกว่าธนาคารใหญ่สี่แห่งที่ขึ้นชื่อเรื่องอัตราเงินปันผลสูง
เงินปันผลเป็นเพียงส่วนหนึ่งของผลตอบแทนจากการลงทุนใน LexinFintech แม้ว่าราคาหุ้นจะพุ่งขึ้นในช่วงห้าวันทำการที่ผ่านมา แต่ P/E ของบริษัทในขณะนี้ยังอยู่ที่เพียง 3.88 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมและยังมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก
ผลประกอบการเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ราคาหุ้นและการจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้น LexinFintech ได้รายงานการเติบโตของรายได้ติดต่อกันถึง 7 ไตรมาส โดยธุรกิจต่างประเทศของบริษัทมีความก้าวหน้าสำคัญในไตรมาสที่ 2 เช่น ตลาดเม็กซิโกที่มีการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น 61% และรายได้เพิ่มขึ้น 113% ในไตรมาสเดียวกัน บริษัทได้วางธุรกิจต่างประเทศเป็นกลยุทธ์สำคัญในการขยายตัว
LexinFintech ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2013 และตั้งอยู่ในเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน โดยมุ่งเน้นเชื่อมโยงผู้บริโภคชาวจีนรุ่นใหม่กับแบรนด์ผู้บริโภคใหม่ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์ที่หลากหลาย LexinFintech เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ของสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนธันวาคม 2017
รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับกิจกรรม!
สมัครสมาชิกวันนี้
เกี่ยวกับเรา
ติดต่อเรารา
เรื่องที่น่ารู้เรา
Bainimarama คือเว็บไซต์ที่มุ่งมั่นในการแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับตลาด Forex และ Cryptocurrency เช่น Bitcoin, Ethereum, XRP, Litecoin และ Dogecoin เป็นต้น รวมถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่อัปเดตอย่างรวดเร็วทันใจทุกการเคลื่อนไหวในตลาดเหล่านี้
เราไม่สนับสนุนการชักชวนการเทรดหรือการระดมทุนในทุกกรณี เราเป็นเพียงสื่อกลางที่มุ่งมั่นในการแบ่งปันความรู้เท่านั้น
**การซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินทุกชนิดมีความเสี่ยง นักลงทุนหรือนักเก็งกำไรควรทำความเข้าใจก่อนที่จะเข้าซื้อขายกับสินทรัพย์นั้นๆ**
ข้อมูลลิขสิทธิ์และนโยบายการใช้งานของ Bainimarama
Copyright 2024 Bainimarama © สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามนำไปทำซ้ำ หรือคัดลอกข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
เรามีนโยบายในการนำเสนอข้อมูลอย่างโปร่งใสและเป็นกลาง ทุกข้อมูลที่นำเสนอไม่มีเจตนาในการชักชวน ชี้นำ หรือสอนการลง ทุนแต่อย่างใด