ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดัชนีหุ้นหลักทั้งสามของตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้น โดยดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P 500 ทำสถิติสูงสุดใหม่ในการปิดตลาด เมื่อปิดการซื้อขาย ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 17.15 จุด หรือ 0.04% ปิดที่ 42,330.15 จุด ในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 1.85%; ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 24.31 จุด หรือ 0.42% ปิดที่ 5,762.48 จุด ในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 2.02%; และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 69.58 จุด หรือ 0.38% ปิดที่ 18,189.17 จุด โดยในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 2.68%

หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น โดยหุ้น Apple เพิ่มขึ้นกว่า 2%, Google เพิ่มขึ้นกว่า 1%, Nvidia, Microsoft, และ Meta เพิ่มขึ้นเล็กน้อย กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์, สินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค, และเนื้อหาและข้อมูลอินเทอร์เน็ตปรับตัวขึ้น นำโดยหุ้น Yingxi Group เพิ่มขึ้นกว่า 9%, Trump Media & Technology Group เพิ่มขึ้นเกือบ 9%, FedEx เพิ่มขึ้นกว่า 2% และ UPS เพิ่มขึ้นกว่า 1% ขณะที่หุ้นกลุ่มโลหะมีค่าและพลังงานแสงอาทิตย์ปรับตัวลง นำโดย Harmony Gold และ Kintian ที่ปรับตัวลงกว่า 5%, Coeur Mining ลดลงกว่า 3%, First Solar, Southern Copper และ Freeport-McMoRan ลดลงกว่า 2%

ตลาดหุ้นยุโรป: ดัชนีหุ้นหลักทั้งสามของยุโรปปิดลดลง โดยดัชนี FTSE 100 ของตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,236.95 จุด ลดลง 83.81 จุด หรือ 1.01%; ดัชนี CAC 40 ของตลาดหุ้นปารีสปิดที่ 7,635.75 จุด ลดลง 156.04 จุด หรือ 2.00%; และดัชนี DAX ของตลาดหุ้นแฟรงค์เฟิร์ตปิดที่ 19,324.93 จุด ลดลง 148.70 จุด หรือ 0.76%

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์: ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลง โดยราคาน้ำมันดิบ WTI สัญญาส่งมอบเดือนพฤศจิกายนลดลง 1 เซนต์ ปิดที่ 68.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 0.01%; และราคาน้ำมันดิบเบรนท์สัญญาส่งมอบเดือนพฤศจิกายนลดลง 21 เซนต์ ปิดที่ 71.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 0.29% ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลง โดยสัญญาทองคำล่วงหน้า COMEX ลดลง 8.70 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ 0.33% ปิดที่ 2,659.40 ดอลลาร์/ออนซ์