ในช่วงเช้าวันที่ 2 ตุลาคม ตามเวลาในประเทศไทย ตลาดหุ้นสหรัฐปิดตัวลดลงในวันอังคาร โดยสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางได้หนุนให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ตัวเลขตำแหน่งงานว่างในสหรัฐกลับสูงกว่าที่คาด และดัชนี PMI ภาคการผลิตยังคงอยู่ในระดับต่ำ ตลอดสัปดาห์นี้ ตลาดให้ความสำคัญกับข้อมูลเศรษฐกิจต่าง ๆ เช่น รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนกันยายน เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในอนาคต

- ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 173.18 จุด (-0.41%) ปิดที่ 42,156.97 จุด

- ดัชนีแนสแด็กลดลง 278.81 จุด (-1.53%) ปิดที่ 17,910.36 จุด

- ดัชนี S&P 500 ลดลง 53.73 จุด (-0.93%) ปิดที่ 5,708.75 จุด

ข่าวการโจมตีด้วยขีปนาวุธครั้งใหญ่ของอิหร่านต่ออิสราเอลในวันอังคารหนุนให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น โดยสถานีโทรทัศน์อิหร่านรายงานว่าขีปนาวุธที่ยิงจากกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านสามารถโจมตีเป้าหมายในอิสราเอลได้ถึง 80% นอกจากนี้ กลุ่มฮูตีในเยเมนยังประกาศโจมตีเรือพาณิชย์ ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง

กลุ่มหุ้นเทคโนโลยีนำตลาดในการปรับตัวลดลง โดยหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เช่น Nvidia, Intel, Apple, Qualcomm และ AMD ต่างลดลงตามกัน

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนี S&P 500 และดาวโจนส์ทำสถิติสูงสุดใหม่ในการปิดตลาด โดยประธานธนาคารกลางสหรัฐ เจอโรม พาวเวลล์ กล่าวว่า ทางธนาคารยังไม่มีการกำหนดเส้นทางล่วงหน้าสำหรับนโยบายอัตราดอกเบี้ย ซึ่งหากเศรษฐกิจเป็นไปตามคาดการณ์ Fed อาจปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 2 ครั้งในปีนี้ โดยการปรับลดครั้งละ 25 จุดฐาน

ขณะนี้นักลงทุนคาดการณ์ว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 50 จุดฐานในเดือนพฤศจิกายนนี้ มีโอกาสอยู่ที่ 40% ลดลงจาก 53% ในวันศุกร์ที่ผ่านมา

David Chao นักวิเคราะห์จาก Invesco ระบุว่า สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกน่าจะมีแนวโน้มดีขึ้นในช่วงสิ้นปี โดยการสนทนาของตลาดได้เปลี่ยนจากเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว มาเป็นการติดตามขนาดและความเร็วของการลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed

นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาการประท้วงของสมาคมท่าเรือนานาชาติ (International Longshoremen’s Association) ในชายฝั่งตะวันออกและอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐ ซึ่งการประท้วงนี้อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ โดยอาจสร้างความสูญเสียมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ต่อวัน

ด้านข้อมูลเศรษฐกิจ สำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขตำแหน่งงานว่าง (JOLTs) ในเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 8.04 ล้านตำแหน่ง สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 7.65 ล้านตำแหน่ง

นอกจากนี้ สถาบันจัดการอุปทาน (ISM) รายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตในเดือนกันยายนอยู่ที่ 47.2 ซึ่งต่ำกว่า 50 เป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน แสดงถึงการชะลอตัวของภาคการผลิต

ในตอนนี้ ตลาดกำลังให้ความสำคัญกับรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนกันยายน ที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของ Fed ในอนาคต