ตลาดน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้: ราคาผันผวนท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง

ในสัปดาห์นี้ ตลาดน้ำมันดิบเผชิญกับความผันผวนอย่างรุนแรง โดยราคาน้ำมันดิบได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบสัปดาห์นับตั้งแต่ต้นปี 2023 ปัจจัยที่อยู่เบื้องหลังความเคลื่อนไหวครั้งนี้ ได้แก่ สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง การเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐอเมริกา และความคาดหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

ทบทวนการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้

ในวันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เพิ่มขึ้น 67 เซนต์ ปิดที่ 74.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 0.6% ปิดที่ 78.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อทบทวนการเคลื่อนไหวทั้งสัปดาห์ ราคาน้ำมัน WTI เพิ่มขึ้น 6.20 ดอลลาร์ หรือ 9.09% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์ที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 ขณะที่น้ำมันเบรนท์ก็เพิ่มขึ้นกว่า 8% ทำให้เป็นการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์ที่สูงที่สุดตั้งแต่เดือนมกราคม 2023

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นในครั้งนี้ คือสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน โดยอิสราเอลได้โจมตีเป้าหมายทางการทหารที่อิหร่านสนับสนุนในตะวันออกกลาง ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงักของการส่งออกน้ำมันดิบ นอกจากนี้ อิหร่านยังตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธหลายลูกใส่อิสราเอล ทำให้ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มสูงขึ้น

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับผลกระทบจากคำแถลงของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งระบุว่าอิสราเอลอาจพิจารณาเลือกทางอื่นนอกเหนือจากการโจมตีแหล่งน้ำมัน คำแถลงนี้ทำให้ตลาดคลายความกังวลในระดับหนึ่ง แม้ว่าจะยังสะท้อนถึงความไม่แน่นอนในอนาคต

ข้อมูลเศรษฐกิจและเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน

นอกจากปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์แล้ว ข้อมูลเศรษฐกิจบางส่วนในสัปดาห์นี้ยังส่งผลต่อราคาน้ำมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่มีผลต่อการคาดการณ์ของตลาด แม้ว่าจะไม่มีข้อมูลคลังน้ำมันที่สำคัญเผยแพร่ในสัปดาห์นี้ แต่นักลงทุนก็ยังให้ความสำคัญกับการประชุมของ OPEC+ ที่จะมาถึง

ตลาดยังคงจับตามองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในประเทศจีนและสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มความต้องการน้ำมันเพิ่มขึ้น รายงานจากสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) คาดการณ์ว่าในปี 2024 ความต้องการน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นปัจจัยที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาด

ความคิดเห็นจากนักวิเคราะห์และสถาบันต่างๆ

ในสัปดาห์นี้ นักวิเคราะห์มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับแนวโน้มราคาน้ำมัน Bjarne Schieldrop นักวิเคราะห์สินค้าจาก SEB AB กล่าวว่า "แม้ว่าความเป็นไปได้ของสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดจะมีน้อย แต่ตลาดยังคงกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปในอีกไม่กี่วันข้างหน้า"

ในขณะที่นักวิเคราะห์จาก Citigroup ได้คาดการณ์ว่าการโจมตีของอิสราเอลอาจทำให้ตลาดสูญเสียการส่งออกน้ำมันดิบมากถึง 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่หากโจมตีโครงสร้างพื้นฐานขนาดเล็ก ปริมาณน้ำมันที่หายไปอาจอยู่ระหว่าง 3 แสนถึง 4.5 แสนบาร์เรลต่อวัน

ส่วนกลุ่มนักวิเคราะห์จากธนาคาร Morgan Stanley เห็นด้วยว่าการโจมตีแหล่งพลังงานของอิหร่านไม่ใช่ทางเลือกแรกของอิสราเอล แม้ว่าระดับคลังน้ำมันทั่วโลกจะต่ำลง ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าราคาน้ำมันจะยังคงอยู่ในระดับสูงจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

แนวโน้มตลาดในอนาคต

มองไปข้างหน้า การเคลื่อนไหวของตลาดน้ำมันจะขึ้นอยู่กับการพัฒนาสถานการณ์ในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด หากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่านทวีความรุนแรงขึ้น ราคาน้ำมันอาจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่หากสถานการณ์คลี่คลายลง ราคาน้ำมันก็อาจปรับตัวลงสู่ระดับที่มีเสถียรภาพมากขึ้น

โดยรวมแล้ว สัปดาห์นี้ตลาดน้ำมันถูกผลักดันโดยปัจจัยหลายประการ รวมถึงความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และความคาดหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก นักลงทุนจำเป็นต้องติดตามข้อมูลเศรษฐกิจและการพัฒนาทางการเมืองในอนาคตเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในตลาด