วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงขึ้น ก่อให้เกิดความเป็นไปได้ที่อิสราเอลจะโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำมันของอิหร่าน ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก

สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบเบรนท์ปรับขึ้น 2.88 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 80.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐ ปรับขึ้น 2.76 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 77.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่าอิสราเอลจะตอบโต้การโจมตีด้วยขีปนาวุธของอิหร่านเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาอย่างไร ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า เขายังไม่รู้ว่าอิสราเอลจะตอบโต้เมื่อใด โดยกล่าวว่า “นอกเหนือจากการโจมตีแหล่งน้ำมัน ผมยังพิจารณาทางเลือกอื่นๆ ด้วย”

“ความวิตกกังวลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ” รีเบคกา บาบิน (Rebecca Babin) ผู้ค้าพลังงานอาวุโสของ CIBC Private Wealth Group กล่าว “ฉันคิดว่ายิ่งเรารอคอยนานเท่าไหร่ ความกลัวก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้น เหมือนกับการนั่งรถไฟเหาะและคาดว่าจะร่วงลง”

สถานการณ์ในตะวันออกกลางยังคงตึงเครียด ฮามาสได้ยิงจรวดไปยังเทลอาวีฟ อิสราเอลได้ส่งกองทัพกลับไปยังภาคเหนือของฉนวนกาซาในช่วงสุดสัปดาห์ ขณะเดียวกันยังคงโจมตีทางอากาศและดำเนินการซ้อมรบภาคพื้นดินอย่างจำกัดในเลบานอน ปริมาณการผลิตน้ำมันของอิหร่านกลับมาเกือบเต็มที่แล้ว แต่ความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นอาจทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันของอิหร่านเปราะบาง

สัปดาห์ที่แล้ว น้ำมันดิบเบรนท์ทำสถิติการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2023 สาเหตุหลักมาจากความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นในภูมิภาคซึ่งมีส่วนแบ่งในการผลิตน้ำมันดิบทั่วโลกราวหนึ่งในสาม การเพิ่มขึ้นครั้งนี้แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของตลาดอย่างฉับพลัน หลังจากราคาน้ำมันลดลงในไตรมาสที่สามเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์และอุปทานในปีหน้า นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs รวมถึง Daan Struyven คาดการณ์ในรายงานว่าหากอุปทานน้ำมันของอิหร่านหยุดชะงัก ราคาน้ำมันดิบเบรนท์อาจพุ่งขึ้นไปที่ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยรายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่งอย่างไม่คาดคิดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดทั่วโลกก็เริ่มประเมินแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐอีกครั้ง

นักเทรดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะไม่ลดอัตราดอกเบี้ยอีก 50 จุดในปีนี้ และคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงเติบโตและสร้างแรงกดดันด้านเงินเฟ้อต่อไป ซึ่งทำให้มีพื้นที่สำหรับการลดอัตราดอกเบี้ยได้เพียงเล็กน้อย

พายุเฮอริเคนมิลตันที่อาจทำให้อุปทานหยุดชะงักยังทำให้นักลงทุนระมัดระวัง เชฟรอนหยุดการผลิตและอพยพพนักงานออกจากแท่นขุดเจาะในวันจันทร์

เช้าวันอังคารที่ 8 ตุลาคม ในช่วงการซื้อขายเอเชีย ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นแต่ร่วงลงในเวลาต่อมา หลังมีข่าวว่ากองทัพอากาศอิสราเอลโจมตีอิหร่าน ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 78.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีสื่อหลักหรือแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ยืนยันเรื่องนี้ ราคาน้ำมันจึงลดลงอย่างรวดเร็ว ล่าสุด ณ เวลา 08:53 น. ราคาน้ำมันดิบ WTI ซื้อขายที่ 76.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แนวรับอยู่ที่เส้นค่าเฉลี่ย 100 วันที่ประมาณ 76.15 ดอลลาร์