ผู้จัดการเงินจากธนาคารกรุงศรีเปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 33.15 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากช่วงเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 33.33 บาท/ดอลลาร์ โดยในวันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.15 - 33.42 บาท/ดอลลาร์ หลังผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ออกมา โดยแตกต่างจากที่ตลาดคาดการณ์เรื่องการปรับลดดอกเบี้ย โดย กนง. ตัดสินใจลดดอกเบี้ย 0.25% ส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าชั่วคราว แต่หลังจากราคาทองคำปรับขึ้น ได้ทำให้เกิดการไหลของการส่งออกทองคำ ทำให้เงินบาทฟื้นตัวในช่วงปิดตลาด

“ค่าเงินในภูมิภาคและเงินบาทยังคงแข็งค่าขึ้น ยังคงขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของดอลลาร์ สำหรับเงินบาท แม้ได้รับผลกระทบจากข่าวการลดดอกเบี้ยชั่วคราว แต่ภาพรวมยังเคลื่อนไหวตามภูมิภาค” ผู้จัดการเงินกล่าว “นอกจากนี้ยังมีปัจจัยจากการไหลของทองคำอีกด้วย”

คาดว่าเงินบาทวันพรุ่งนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.10 - 33.30 บาท/ดอลลาร์ โดยคืนนี้ไม่มีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ตลาดรอติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการประกาศอัตราดอกเบี้ยในวันพรุ่งนี้ (17 ตุลาคม)

- เงินเยนแข็งค่าขึ้นเป็น 149.20 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ 149.21 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเป็น 1.0894 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ 1.0886 ดอลลาร์/ยูโร

- ดัชนี SET วันนี้ปิดที่ 1,485.01 จุด เพิ่มขึ้น 19.98 จุด (+1.36%) มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 77,184.13 ล้านบาท

- กนง. มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง เห็นชอบให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จาก 2.50% เป็น 2.25% ต่อปี มีผลทันที คณะกรรมการมองว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับระดับที่ประเมินไว้ และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะค่อยๆ กลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายภายในสิ้นปี 2024

- คณะกรรมการระบุว่า การลดอัตราหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ยังคงดำเนินต่อไป สถานะนโยบายการเงินที่เป็นกลางในปัจจุบันยังสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ โดยส่วนใหญ่เห็นว่าการลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% จะช่วยบรรเทาภาระหนี้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการลดอัตราหนี้ต่อรายได้ครัวเรือน

- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า หวังว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงอีก 0.25% ในการประชุมครั้งหน้า เพราะเศรษฐกิจไทยยังไม่ดีขึ้นเต็มที่ แต่คาดว่าเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 และ 4 จะฟื้นตัว คาดว่าจะขยายตัว 3-4% ทำให้ GDP ทั้งปีมีโอกาสเติบโต 2.7%

- สภาทองคำมองว่าการลดดอกเบี้ย 0.25% อาจทำให้เงินบาทอ่อนค่า และเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองคำในประเทศปรับตัวขึ้น

- ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า หนี้ครัวเรือนในปี 2024 อาจขยายตัวต่ำกว่า 1% เนื่องจากสัญญาณฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังคงอ่อนแอ

- ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยตามที่คาดการณ์ เพื่อรักษาอัตราเงินเฟ้อภายในเป้าหมายจนถึงปี 2025