ราคาน้ำมันดิบสหรัฐ (WTI) ในช่วงตลาดเอเชียมีการเคลื่อนไหวเล็กน้อย โดยยังคงต่อเนื่องจากแรงซื้อเมื่อคืนที่ผ่านมา ซื้อขายใกล้เคียงระดับ 71.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในด้านพื้นฐาน ตลาดมองในเชิงบวกเกี่ยวกับความต้องการน้ำมันหลังการเลือกตั้งสหรัฐที่กำลังจะมาถึง ประกอบกับ OPEC+ ที่ชะลอการเพิ่มการผลิต ซึ่งทำให้มีโอกาสสูงที่ทั้งอุปสงค์และอุปทานจะสนับสนุนราคา

สถานะทางเทคนิคของราคาน้ำมัน

ในแง่เทคนิค ราคาน้ำมันยังไม่สามารถทะลุแรงต้านในกรอบของการเคลื่อนไหว แต่ได้อยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยที่สนับสนุนราคาซึ่งอาจจะมีการขยับสูงขึ้นในลักษณะการเคลื่อนไหวในกรอบ

ความสำคัญของการเลือกตั้งสหรัฐและข้อมูลสต๊อกน้ำมัน EIA

สัปดาห์นี้ ตลาดให้ความสนใจกับผลการเลือกตั้งสหรัฐ รวมถึงข้อมูลสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐจาก EIA เพื่อจับทิศทางของราคาน้ำมันต่อไป

รายงานจากรอยเตอร์เกี่ยวกับการผลิตน้ำมันของ OPEC

การสำรวจของรอยเตอร์ระบุว่า เนื่องจากลิเบียสามารถแก้ไขวิกฤตการเมืองได้ ทำให้การผลิตน้ำมันของ OPEC ในเดือนตุลาคมฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดของปี โดยผลการสำรวจพบว่าการผลิตน้ำมันของ OPEC อยู่ที่ 26.33 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 195,000 บาร์เรลต่อวัน โดยลิเบียเป็นผู้ที่เพิ่มกำลังการผลิตมากที่สุด ทั้งนี้ เวเนซุเอลาก็เพิ่มการผลิตเช่นกัน โดยมีการผลิตน้ำมันถึง 860,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งถือว่าสูงสุดตั้งแต่ปี 2020

คาดการณ์เกี่ยวกับสต๊อกน้ำมัน

นักวิเคราะห์คาดว่าสต๊อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นจะลดลงในสัปดาห์นี้ ในขณะที่สต๊อกน้ำมันดิบอาจเพิ่มขึ้น โดยสต๊อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐ ณ วันที่ 25 ตุลาคม ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสองปี

การตัดสินใจเลื่อนการเพิ่มการผลิตของ OPEC+

OPEC+ ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ว่าจะเลื่อนแผนการเพิ่มการผลิตที่จะมีผลในเดือนธันวาคมออกไปหนึ่งเดือน เนื่องจากความต้องการที่อ่อนแอโดยเฉพาะจากประเทศในเอเชีย ประกอบกับการเพิ่มอุปทานนอกกลุ่ม OPEC ที่ส่งผลกดดันตลาด

ความคิดเห็นจากนักกลยุทธ์พลังงานของ Macquarie

นักกลยุทธ์พลังงานจาก Macquarie, Walt Chancellor กล่าวว่า การขยายเวลาลดการผลิตไปจนถึงไตรมาสที่สี่ของปี 2024 ทำให้เกิดความสงสัยเกี่ยวกับคำมั่นสัญญาของ OPEC+ ในการเพิ่มอุปทานในปี 2025 เขายังกล่าวเสริมว่าประกาศนี้อาจช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับการเริ่มต้น "สงครามราคา" ของ OPEC+

ความคิดเห็นจาก ING เกี่ยวกับการเลื่อนการผลิต

นักวิเคราะห์จาก ING ระบุว่า แม้ว่าการเลื่อนไปถึงเดือนมกราคมอาจไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นฐานมากนัก แต่มันก็อาจทำให้ตลาดต้องทบทวนกลยุทธ์ของ OPEC+ ใหม่

การคาดการณ์จาก Yeap Jun Rong

นักกลยุทธ์ตลาด Yeap Jun Rong กล่าวว่า แนวโน้มของราคาน้ำมันจะยังคงอยู่ในกรอบการเคลื่อนไหวกว้างๆ และการปรับตัวขึ้นอาจถูกจำกัดที่แนวต้าน 78.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ข่าวจากกระทรวงน้ำมันของอิหร่าน

เว็บไซต์ข่าวของกระทรวงน้ำมันของอิหร่าน Shana รายงานเมื่อวันจันทร์ว่า อิหร่านได้อนุมัติแผนเพิ่มการผลิตน้ำมัน 250,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งอาจเพิ่มการผลิตของอิหร่านในตลาด

พายุเฮอร์ริเคนในอ่าวเม็กซิโก

ในสหรัฐ คาดว่าพายุโซนร้อนในอ่าวเม็กซิโกจะเพิ่มขึ้นเป็นพายุเฮอร์ริเคนระดับ 2 ในสัปดาห์นี้ อาจทำให้การผลิตน้ำมันลดลงประมาณ 4 ล้านบาร์เรล

มุมมองจากนักวิเคราะห์ IG

Tony Sycamore นักวิเคราะห์จาก IG กล่าวว่า "ขณะนี้เราอยู่ในช่วงสงบก่อนพายุ" โดยเสริมว่านักลงทุนกำลังจับตาผลการเลือกตั้งในสหรัฐและการประชุมของรัฐสภาประเทศใหญ่ในเอเชีย ซึ่งอาจมีการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

ระดับราคาที่สำคัญสำหรับการปรับตัวของน้ำมัน

Sycamore กล่าวเสริมว่า "จากมุมมองทางเทคนิค ราคาน้ำมันจำเป็นต้องกลับไปที่ระดับ 71.50/72.50 ดอลลาร์ เพื่อที่จะลดความเสี่ยงด้านลบลง" โดยอ้างถึงราคาน้ำมันดิบสหรัฐ

เขาสรุปว่า "ทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่าในระยะสั้นยังไม่มีเหตุผลให้เร่งการซื้อขายน้ำมันในระดับสูง"